อียูชี้ชัดสินค้าจีนอันตราย ของเด็กเล่นติดท๊อป

เอเอฟพี – คณะกรรมาธิการยุโรปไม่พอใจมาตรการจัดการความปลอดภัยของสินค้าของรัฐบาลจีน หลังมีตัวเลขชี้ชัดว่าสินค้าอันตรายที่พบในกลุ่มอียูเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์นำเข้าจากจีน ระบุ ของเด็กเล่นติดอันดับท๊อป รองลงมาคือเครื่องใช้ไฟฟ้า

การแสดงความคิดเห็นจากคณะผู้บริหารของสหภาพยุโรป หรือ อียู ออกมาหลังจากมีตัวเลขระบุว่าสินค้าอันตรายที่พบในกลุ่มสมาชิกอียูเมื่อปีที่แล้ว กว่าครึ่งหนึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตจากจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทของเด็กเล่น

โดยหน่วยงานด้านระบบเตือนอันตรายจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร (RAPEX) ของอียู ได้ระบุตัวเลขว่า ในปี 2551 พบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยในกลุ่มอียูจำนวน 1,866 ผลิตภัณฑ์ และ 59 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นสินค้าที่มาจากจีน ซึ่งถือว่ามีปริมาณมากขึ้นหากเทียบกับปีก่อนๆ กล่าวคือ ในปี 2550 พบผลิตภัณฑ์อันตรายที่นำเข้าจากจีนคิดเป็น 52 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในปี 2549 พบผลิตภัณฑ์อันตรายจากจีนคิดเป็น 49 เปอร์เซ็นต์

และยังระบุด้วยว่า ในบรรดาสินค้าอันตรายที่ถูกค้นพบและเปิดเผยออกมานั้น รัฐบาลจีนสามารถหามาตรการมาแก้ไขปัญหาได้เพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนสินค้าอันตรายที่พบทั้งหมด โดยพบว่าอุปสรรคสำคัญคือ จีนไม่สามารถระบุบริษัทผลิตสินค้าที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นได้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มาเกลน่า คูเนวา กรรมาธิการกิจการผู้บริโภคของอียู ระบุว่า แม้ปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหาในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนๆ แต่ก็ยังไม่ดีพอ

“มาตรการแก้ปัญหามีการปรับปรุงดีขึ้น แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และทางอียูก็กำลังร่วมมือกับหน่วยงานของจีนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้อยู่ แต่เราไม่ควรนำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลเพื่อปิดตลาด เพราะอียูยังจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าจากจีนอยู่ เพียงแต่ต้องเป็นสินค้าที่ปลอดภัย” มาเกลน่า คูเนวา ระบุ

ในบรรดาสินค้าที่ผลิตจากประเทศจีนนั้น ของเด็กเล่นดูเหมือนจะมีปัญหามากที่สุดโดยจำนวน 1 ใน 3 ของของเด็กเล่นที่ผลิตในจีนถูกเรียกเก็บคืนจากท้องตลาด เฉพาะแมทเทลซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านของเด็กเล่นจากสหรัฐฯ เพียงรายเดียว ได้เรียกเก็บคืนของเล่นที่ไม่ปลอดภัยกว่า 21 ล้านชิ้นเมื่อปี 2550

ส่วนผลิตภัณฑ์จากจีนที่มีความไม่ปลอดภัยและถูกเรียกเก็บคืนมากเป็นอันดับสองคือเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยพบว่าในจำนวนสินค้าไม่ปลอดภัยทั้งหมด มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ 11 เปอร์เซ็นต์ สินค้าประเภทรถยนต์ที่ไม่ปลอดภัยคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ และเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าอีก 9 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ อียูในฐานะกลุ่มประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ก็ตกเป็นจำเลยที่ถูกกล่าวหาว่าผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นอันตรายมากเป็นอันดับสองรองจากจีน เฉพาะโรงผลิตไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรมในเยอรมนีเพียงแห่งเดียว ได้ถูกระบุว่าเป็นแหล่งผลิตสารอันตรายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางร่างกาย เช่น การสำลัก และการถูกไฟฟ้าดูด และอันตรายทางเคมี เช่น การเกิดไฟลุกไหม้ และอันตรายอื่นๆ คิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันจากทั่วโลก

เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความหวาดกลัวต่อผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีน อียูและจีนก็ได้เซ็นต์ข้อตกลงเรื่องการปรับปรุงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ภายใต้ข้อตกลงนี้ จีนจะต้องรายงานอียูว่าได้ดำเนินการติดตามสินค้าอันตรายไปแล้วอย่างไรบ้าง และเจ้าหน้าที่จากทั้งสองฝ่ายยังจะร่วมกันตรวจสอบผู้ผลิตสินค้า เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ผลิตออกมานั้นมีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล