เอเอฟพี - แบงก์ ออฟ ไชน่า เผยเมื่อวันพฤหัสบดี (2 เม.ย.) ว่า ทางธนาคารได้ยกเลิกการประมูลซื้อหุ้นสถาบันการเงินเอกชน "บริษัทการเงิน เอมองด์ เดอ รอธ์ชิลด์" ของฝรั่งเศส หลังจากผู้คุมกฎจีนไม่อนุมัติข้อตกลงดังกล่าว
แบงก์ ออฟ ไชน่า 1 ใน 4 ธนาคารรัฐรายใหญ่ของประเทศ เคยประกาศเมื่อเดือนกันยายนว่า ธนาคารจะควักกระเป๋า 236 ล้านยูโร (342 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อซื้อหุ้น 20% ของธนาคารเอกชนแดนน้ำหอม แต่ล่าสุดหวัง เจ้าเหวิน โฆษกของแบงก์ ออฟ ไชน่าได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ข้อตกลงดังกล่าวกลายเป็นโมฆะไปโดยปริยาย เนื่องจากเลยกำหนดมาแล้ว”
โดยแบงก์ ออฟ ไชน่า ถูกบีบให้ขยายวันขีดเส้นตายจากเดิม 31 ธันวาคมเป็น 1 เมษายน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นทางรัฐบาลส่งสัญญาณไม่อนุมัติของตกลงนี้ ซึ่งหวังกล่าวว่า ทางธนาคารจะไม่ขอยืดกำหนดเวลาไปอีก แต่ยืนยันว่าทางธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้บริการลูกค้ารายได้สูง และจะ “แสวงหาทางร่วมมือในด้านอื่น” กับธนาคารฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านโฆษกของธนาคาร เอมองด์ เดอ รอธ์ชิลด์ ในกรุงปารีสยืนยันว่า ข้อตกลงดังกล่าวถูกพับไป เนื่องจากการคัดค้านจากรัฐบาลจีน และทางธนาคารก็ตัดสินใจที่จะยกเลิกกระบวนการทั้งหมด เนื่องจากไม่ต้องการเจรจาเรื่องราคาและขยายเวลาใหม่
แต่อย่างไรก็ตามทางโฆษกระบุว่า ธนาคารหวังว่าจะร่วมมือกับแบงก์ ออฟ ไชน่าต่อไป พร้อมย้ำความล้มเหลวในการทำธุรกิจครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองธนาคารเลย
แบงก์ ออฟ ไชน่า 1 ใน 4 ธนาคารรัฐรายใหญ่ของประเทศ เคยประกาศเมื่อเดือนกันยายนว่า ธนาคารจะควักกระเป๋า 236 ล้านยูโร (342 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อซื้อหุ้น 20% ของธนาคารเอกชนแดนน้ำหอม แต่ล่าสุดหวัง เจ้าเหวิน โฆษกของแบงก์ ออฟ ไชน่าได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ข้อตกลงดังกล่าวกลายเป็นโมฆะไปโดยปริยาย เนื่องจากเลยกำหนดมาแล้ว”
โดยแบงก์ ออฟ ไชน่า ถูกบีบให้ขยายวันขีดเส้นตายจากเดิม 31 ธันวาคมเป็น 1 เมษายน หลังจากที่ก่อนหน้านั้นทางรัฐบาลส่งสัญญาณไม่อนุมัติของตกลงนี้ ซึ่งหวังกล่าวว่า ทางธนาคารจะไม่ขอยืดกำหนดเวลาไปอีก แต่ยืนยันว่าทางธนาคารจะยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้บริการลูกค้ารายได้สูง และจะ “แสวงหาทางร่วมมือในด้านอื่น” กับธนาคารฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านโฆษกของธนาคาร เอมองด์ เดอ รอธ์ชิลด์ ในกรุงปารีสยืนยันว่า ข้อตกลงดังกล่าวถูกพับไป เนื่องจากการคัดค้านจากรัฐบาลจีน และทางธนาคารก็ตัดสินใจที่จะยกเลิกกระบวนการทั้งหมด เนื่องจากไม่ต้องการเจรจาเรื่องราคาและขยายเวลาใหม่
แต่อย่างไรก็ตามทางโฆษกระบุว่า ธนาคารหวังว่าจะร่วมมือกับแบงก์ ออฟ ไชน่าต่อไป พร้อมย้ำความล้มเหลวในการทำธุรกิจครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองธนาคารเลย
