เอเรียนฯช็อค! ยูเทลแซทเลือกดาวเทียมจีนท่องอวกาศ

เอเอฟพี- ยักษ์ใหญ่วงการอวกาศ “เอเรียนสเปซ” ช็อคสุดขีด เมื่อดาวเทียมจีนซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญ ถูกคัดเลือกจากยูเทลแซทให้ขึ้นไปท่องอวกาศ ขณะที่ ส.ส.ของสหรัฐฯ ค้านเต็มที่ แถมเรียกร้องให้รัฐบาล “โอบามา” ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจกดดันให้ยูเทลแซทเปลี่ยนใจ

ทั้งนี้ นายฌอง-อีฟ เลอ กัล ประธานกรรมการบริษัทเอเรียนสเปซ จากฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ส่งจรวดขึ้นไปท่องอวกาศ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่าข่าวที่จีนได้รับคัดเลือกนั้น “ทำให้เรางงงวยอย่างสุดๆ”

เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางการจีนได้มีการเจรจากับยูเทลแซทในเรื่องที่จะส่งดาวเทียม W3B ของจีน ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงหนึ่งในจรวด “ลอง มาร์ช” ขึ้นไปในอวกาศ จนทำให้เจ้าของบริษัทที่ผิดหวังหลายราย รวมทั้ง เลอ กัล ต่างเกรงว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไปสร้างความขุ่นเคืองให้แก่สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ในกฎหมายการค้าอาวุธระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulation หรือ ITAR) ที่สหรัฐฯออกไว้ในปี ค.ศ. 1998 ได้ห้ามการส่งออกและนำเข้าสินค้าและบริการด้านการป้องกันประเทศที่ผลิตจากประเทศที่กำหนดไว้ ซึ่งก็รวมถึงประเทศจีนด้วย

“รัฐบาลของหลายๆ ประเทศ ที่สำคัญที่สุดคือสหรัฐฯ มีเหตุผลดีเพียงพอที่จะสั่งห้ามการถ่ายโอนเทคโนโลยีไปสู่ประเทศจีน” เลอ กัน กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี และยังกล่าวอีกว่า การตัดสินใจของยูเทลแซทที่จะใช้ดาวเทียมจากจีนท่องอวกาศนั้น แปลความได้ว่าต้องการเป็นปรปักษ์กับสหรัฐฯ

เมื่อเดือนที่แล้ว ส.ส.พรรครีพับลิกัน นายดาน่า โรห์ราบาเช่อร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดหาอาวุธของสภาผู้แทชนสหรัฐฯ ได้กล่าวระหว่างการไต่สวนของสภาคองเกรส โดยได้วิจารณ์การเตรียมการเพื่อให้จรวดที่มีสัญชาติจีนปล่อยดาวเทียมสื่อสารขึ้นสู่อวกาศ โดยบอกว่า

“เราต้องการทำให้แน่ใจว่า การส่งออกสินค้าไฮเทคจะไม่ถูกบีบบังคับด้วยกฎหมาย และเรายังต้องระวังด้วยว่าเทคโนโลยีชั้นสูงของเราจะไม่ตกไปอยู่ในมือของศัตรู หรือชาติที่แพร่พันธุ์อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction - WMD) ซึ่งเรารู้ดีว่าหมายถึงชาติไหน” และยังว่า “เราต้องแน่ใจได้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่กำหนดไว้ใน ITAR และกฎหมายว่าด้วยการส่งออกอื่นๆ จะห้ามไม่ให้ชาติที่เย้ยกฎหมายและเป็นอันธพาลได้รับเทคโนโลยีชั้นสูงจากเรา”

นอกจากนี้ นายโรห์ราบาเช่อร์ ยังได้บอกเป็นนัยว่า อาจถึงเวลาแล้วที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการทางเศรษฐกิจมากดดันให้ยูเทลแซทเปลี่ยนการตัดสินใจ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯได้ซื้อบริการดาวเทียมจากยูเทลแซทคิดเป็นมูลค่าถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“ตอนนี้เกมลูกไก่ระหว่างยูเทลแซทและรัฐบาลนายโอบามาเพิ่มจะเริ่มขึ้น หากรัฐบาลนายโอบามาไม่ทำอะไรเลย มันก็จะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าการถ่ายโอนเทคโนโลยีไปสู่ผู้แพร่พันธุ์อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงอย่างเช่นจีน ถือเป็นรูปแบบทางธุรกิจที่ยอมรับกันได้”