xs
xsm
sm
md
lg

เพนตากอนหวั่นดุลอำนาจเอเชียเปลี่ยน เหตุจีนเสริมอานุภาพด้านทหาร-ไซเบอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไฟล์ภาพทหารเรือของจีนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานในสังกัดของกองทัพประชาชนจีน (พีแอลเอ)กำลังร้องคำขวัญขณะมีพิธีสวนสนามที่กรุงปักกิ่ง - ภาพ เอเอฟพี
เอเอฟพี – เพนตากอนหวั่น ดุลอำนาจทางทหารในเอเชียนเปลี่ยนไป เหตุจีนเพิ่มงบทหารเพื่อพัฒนาขีปนาวุธ รวมทั้งเร่งพัฒนาไฮ-เทคด้านอวกาศ และทุ่มความสนใจไปที่สงครามไซเบอร์ ด้าน ก.กลาโหมจีนออกโรงโต้ รายงานเพนตากอนบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง แถมพยายามหลอกลวงเรื่องที่จีนเป็นภัยคุกคามทางทหาร

ทั้งนี้ รายงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ที่เสนอต่อสภาคองเกรสเมื่อวันพุธ (25 มีนาคม) ยังระบุด้วยว่า การพัฒนาด้านขีปนาวุธและเทคโนโลยีชั้นสูงของจีน ถือว่าได้แซงหน้าประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียไปแล้ว และจีนก็ยังไม่หยุดพัฒนา โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการทหาร รวมถึงเทคโนโลยีต่อต้านการเข้าถึงและขัดขวางเป็นพื้นที่ (anti-access/area denial) ด้านอวกาศ สงครามไซเบอร์ และนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้ดุลอำนาจทางทหารของภูมิภาคเอเชียต้องเปลี่ยนไป และยังจะส่งผลต่อประเทศอื่นด้วย

รายงานดังกล่าวระบุอีกว่า การเสริมกำลังทหารดังกล่าว นอกจากจะช่วยจีนในการรักษาสันติ ภาพ ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยชน และปฏิบัติการต่อต้านการปล้นสะดมทางทะเลแล้ว ยังจะช่วยให้จีนขยายอำนาจในการเข้าถึงทรัพยากรและอ้างสิทธิเหนือเขตแดนที่มีความขัดแย้งอีกด้วย

และยังเป็นครั้งแรกที่เพนตากอนได้ยืนยันไว้ในรายงานนี้ ว่าจีนได้สร้างฐานทัพเรือแห่งใหม่ที่เกาะไห่หนาน เพื่อรองรับจำนวนเรือดำน้ำที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเรือดำน้ำติดจรวดขีปนาวุธ หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกรายงานไว้ในสื่อหลายฉบับก่อนหน้านี้ โดยเพนตากอนได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับฐานทัพเรือแห่งนี้ว่า

“ท่าเรือนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใต้ดิน ซึ่งจะช่วยให้กองทัพประชาชนจีน (พีแอลเอ) เข้าถึงเส้นทางเดินเรือที่สำคัญๆ ได้ และยังจะทำให้จีนสามารถส่งเรือดำน้ำไปยังใต้ท้องน้ำของทะเลจีนใต้อย่างลับๆ ได้ด้วย”

แม้รายงานประจำปีของเพนตากอนฉบับนี้ ได้เขียนขึ้นก่อนที่การเผชิญหน้าระหว่างเรือของจีนกับเรือสำรวจ Impeccable ของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่การกระทำของจีนเพื่อต่อต้านสิ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของชาติ กลับมีความสอดคล้องกับรายงานฉบับนี้อย่างยิ่ง โดยการเผชิญหน้าในครั้งนั้น ทางการจีนกล่าวหาว่าเรือสำรวจสหรัฐฯ เข้ามาสืบราชการลับในเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน ขณะที่สหรัฐฯ โต้ว่าเรือดังกล่าวทำการสำรวจอยู่ในน่านน้ำสากล

รายงานของเพนตากอนยังระบุว่า จีนให้ความสำคัญกับสงครามไซเบอร์เป็นอันดับแรก และที่ผ่านมาการสอดแนมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลประเทศอื่นในหลายๆ ครั้ง ดูเหมือนจะมีต้นทางมาจากจีน โดยการสอดแนมดังกล่าวจะเน้นไปที่การโจรกรรมข้อมูล เจ้าหน้าที่อาวุโสจากเพนตากอนรายหนึ่ง กล่าวว่า “สิ่งที่เราวิตกกังวลก็คือความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว”

เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลของอินเดียและเบลเยียมก็ได้รายงานว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของตนถูกแฮค และสงสัยว่าแฮคเกอร์นั้นจะเป็นชาวจีน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
ไฟล์ภาพนักท่องเที่ยวเดินเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทางทหารในกรุงปักกิ่ง - ภาพ เอเอฟพี
เพนตากอนยังได้รายงานไว้ว่า จีนได้ขายอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าเกือบ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ออกสู่ตลาดโลก โดยมีปากีสถานเป็นลูกค้ารายใหญ่ และยังระบุว่า จีนไม่เคยรายงานเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการทหารและนโยบายด้านความมั่นคงอย่างโปร่งใส “และนั่นได้สร้างความไม่มั่นใจในอัตราเสี่ยงต่อความมั่นคง และได้เพิ่มภาวะแห่งความไม่เข้าใจและคาดการผิดได้”
พร้อมกันนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ได้เรียกร้องให้มีการพูดคุยกับกองทัพของจีนมากขึ้น เพื่อลดข้อสงสัยซึ่งกันและกัน โดยนายเจฟ มอร์เรล โฆษกเพนตากอน กล่าวในการแถลงข่าวว่า

“ถ้ามีการพูดคุยกันมากขึ้น เราก็ปฏิสัมพันธ์กันมากขื้น และจะเป็นโอกาสดีที่เราจะช่วยลด หรืออาจถึงขั้นกำจัดความไม่เข้าใจกันและการวินิจฉัยข้อมูลผิดๆ ระหว่างกันได้”

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของจีนก็ได้ออกมาตอบโต้เพนตากอนเมื่อวันพฤหัส (26 มีนาคม) โดย นายฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “รายงานของเพนตากอนถือเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง และยังคงพยายามหลอกลวงเรื่องที่จีนเป็นภัยคุกคามทางทหาร”

พร้อมกันนี้ จีนยังได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการเผยแพร่รายงานประจำปีฉบับนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายด้านความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างทั้งสองประเทศ

ทางการจีนมักจะออกมาปฏิสธอยู่เสมอๆ ว่า การประเมินประจำปีของสหรัฐฯ นั้นมีการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านการทหารของจีน และว่าการพัฒนาทางทหารของจีนมีจุดประสงค์เพื่อการป้องกันประเทศเท่านั้น

ทางการจีนได้ประกาศแผนการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณทั้งประเทศ เอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น