ผู้ประท้วงนับร้อยบุกถล่มสน. ระเบิดแค้นตร.บีบลามะฆ่าตัวตาย

เอเจนซี – สำนักข่าวซินหัวรายงานวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า มีผู้ประท้วงนับร้อย บุกโจมตีสถานีตำรวจเมือง Gyala ในเขตที่อยู่อาศัยของชาวทิเบตอำเภอ Golog มณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกของประเทศจีน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังมีข่าวตำรวจจับพระลามะรูปหนึ่งไว้ และกล่าวหาว่าเขาสนับสนุนลัทธิแบ่งแยกดินแดน ซึ่งภายหลังพระรูปดังกล่าวหายสาปสูญไป

ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมผู้ประท้วงได้ 6 ราย ส่วนอีก 89 รายยอมมอบตัว โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่ที่จับได้เป็นพระลามะ

ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายจาซี ซังอู ชาวมณฑลชิงไห่ ถูกตำรวจสอบสวนข้อหาให้การสนับสนุนชาวทิเบตแยกตัวเป็นอิสรภาพ โดยซินหัวอ้างคำพูดของทางการอำเภอ Golog ว่า ชายคนดังกล่าวได้หลบหนีไปหลังจากขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำและหายสาปสูญไป

มีพยานพบเห็นชายคนดังกล่าวว่ายน้ำอยู่ในแม่น้ำฮวงโห แต่ตำรวจพบเพียงเสื้อผ้าของเขาวางทิ้งไว้ริมแม่น้ำ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามสถานีตำรวจและทางการท้องถิ่น แต่พวกเขาระบุว่า ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในเว็บไซต์ทิเบตพลัดถิ่น phayul.com ที่ระบุว่า เหตุการณ์กลุ่มคนบุกประท้วงที่สถานีตำรวจนั้นเกิดขึ้น เพราะมีชายคนหนึ่งกระโดดลงไปในแม่น้ำฮวงโห เพื่อฆ่าตัวตาย หลังจากหนีการจับกุมของตำรวจขณะไปเข้าห้องน้ำ

โดยเว็บไซต์ดังกล่าวอ้างแหล่งข่าวในธรรมศาลาของอินเดีย ซึ่งอดีตเคยอาศัยอยู่ที่ชิงไห่ ระบุว่า ชายคนดังกล่าวเป็นพระลามะวัย 28 ปี ชื่อ ทาชิซังโป ซึ่งออกเสียงเป็นภาษาจีนว่า จาซี ซังอู พร้อมระบุว่า ตำรวจพบธงชาติทิเบตและใบปลิวเรื่องการเมืองในห้องของเขา

การเสียชีวิตของพระรูปนี้ ได้จุดชนวนการประท้วงต่อต้านจีนในเมืองดังกล่าว โดยมีชาวทิเบตนับร้อยออกมาตะโกนเรียกร้องเสรีภาพแก่ทิเบต และบุกโจมตีสถานีตำรวจดังกล่าว

อนึ่ง ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่ เนื่องจากหวั่นชาวทิเบตจะอาศัยโอกาสครบรอบ 50 ปีของเหตุการณ์ชาวทิเบตลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองจีน ก่อเหตุจลาจลเช่นเดียวกับจลาจลที่กรุงลาซา เมืองหลวงของทิเบต เมื่อวันที่ 14 มีนาคมปีที่แล้ว

การจลาจลในครั้งนั้นได้ลุกลามไปสู่มณฑลที่อยู่รอบๆ กรุงลาซาอีก 3 แห่ง จนท้ายที่สุดรัฐบาลจีนได้ส่งกำลังทหารเข้าไปปราบปรามผู้ประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน วาระครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น