xs
xsm
sm
md
lg

จีนชี้เรือนาวีมะกันละเมิดกฎหมาย โต้เพนทากอนหาว่าเรือจีน "ก่อกวน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรือประมงจีนที่แล่นเข้ามาประชิดเรือ USNS Impeccable -ภาพเอเจนซี
เอเจนซี่—จีนศอกกลับ ชี้เรือสหรัฐฯสำรวจน่านน้ำทะเลจีนใต้อย่างผิดกฎหมาย โต้เพนทากอนที่แถลงว่าเรือจีน “ก่อกวน” ละเมิดน่านน้ำสากลเข้ามาประชิดเรือสหรัฐฯที่ปฏิบัติหน้าที่ตามปกตินั้น ผิดไปจากความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง

ศึกเผชิญหน้าระหว่างสองยักษ์ผู้บริโภคน้ำมัน ทำราคาน้ำมันดิบโลกสะดุ้ง ดีดตัวร้อยละ 3 เมื่อวันจันทร์ และยังคงสูงกว่า 47 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในวันต่อมา

แต่การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ ดูจะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์สองชาติที่กำลังจับมือกันอย่างใกล้ชิดในการคลี่คลายวิกฤตเศรษฐกิจโลก กลุ่มนักวิเคราะห์จีนในปักกิ่งชี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงย่านเอเชีย-แปซิฟิกในแดนพญาอินทรี ชี้ว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ ดูไม่ใช่อุบัติเหตุ โดยจีนต้องการส่งสารแก่วอชิงตัน ให้เคารพอิทธิพลทหารจีนในอาณาบริเวณ

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน นาย หม่า จาวซี่ว์ แถลงในวันนี้(10 มี.ค.) ว่า เรือ USNS Impeccable ที่เผชิญหน้ากับเรือจีน ปฏิบัติการสำรวจอย่างผิดกฎหมาย “สิ่งที่อเมริกันกล่าวอ้างนั้น ผิดกฎหมายอย่างสิ้นเชิง และสับสนไม่รู้ไหนถูกไหนผิด ซึ่งจีนไม่อาจยอมรับได้” หม่า กล่าวแก่ที่ประชุมข่าวประจำวัน

“USNS Impeccable ละเมิดทั้งกฎหมายสากล และกฎหมายจีน ล่วงล้ำทะเลจีนใต้โดยปราศจากการอนุญาตจากจีน”

สืบเนื่องจากในวันจันทร์(9 มี.ค.) กระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเพนทากอนแถลงประท้วงต่อทางการจีน โดยแถลงว่า ขณะที่เรือ USNS Impeccable ของหน่วยนาวีสหรัฐฯกำลังสำรวจข้อมูลซึ่งเป็นภารกิจประจำวันอยู่นั้น ก็มีเรือจีนจากหน่วยงานพิทักษ์น่านน้ำทะเล หน่วยประมง และนาวี รวม 5 ลำ แล่นเข้ามาประชิด

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันอาทิตย์(8 มี.ค.) ณ บริเวณน่านน้ำทะเลจีนใต้ ห่างจากชายฝั่งมณฑลไห่หนัน (ไหหลำ) ไปทางทิศใต้ 120 กม. สหรัฐฯชี้ว่าบริเวณนี้ เป็นเขตน่านน้ำสากล และกลุ่มเรือจีนแล่นเข้าใกล้อย่างเฉียดฉิว และน่าอันตราย ซึ่งสหรัฐฯระบุว่า เป็นการ “ก่อกวน” พร้อมกันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯได้ขอให้จีนตรวจสอบกฎหมายน่านน้ำสากล

นอกจากนี้ หน่วยนาวีสหรัฐฯยังได้เผยแพร่ภาพลูกเรือจีนพยายามใช้ตะขอยาว ตัดสายเคเบิล ที่เรือ Impeccable ใช้โยงเครื่องมือดักฟังใต้น้ำ

สำหรับเรือ USNS Impeccable เป็นเรือลาดตระเวนมหาสมุทรที่ไม่ได้ติดอาวุธใดๆ และได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เพนทากอนยังเผยอีกว่าไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จีนได้รุกปฏิบัติการอย่างดุเดือดในบริเวณนั้น รวมทั้งส่งฝูงเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล

โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน แถลงโต้ตอบก่อนหน้าว่า “สิ่งที่สหรัฐฯกล่าวอ้างว่าเป็นปฏิบัติการในทะเลลึกนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เรือนาวีสหรัฐฯมักทำการสำรวจอย่างผิดกฎหมายในบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน และเจ้าหน้าที่จีนก็เพียรพยายามมาหลายครั้งในการใช้ช่องทางการทูต เรียกร้องให้สหรัฐฯหยุดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายดังกล่าว”

ทั้งนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์อิสระเผยว่าเกาะไห่หนัน เป็นที่ตั้งฐานทัพนาวี ซึ่งมีเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีประจำการอยู่ด้วย

การกระทบกระทั่งครั้งนี้ ยังเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงสองประเทศตกลงกลับมาแลกเปลี่ยนทางทหาร หลังจากที่จีนแขวนความร่วมมือนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนเป็นการประท้วงที่วอชิงตันตกลงแพคเกจอาวุธที่จะขายให้แก่ไต้หวัน

เหตุการณ์ครั้งนี้ ยังดูละม้ายกับเหตุการณ์เผชิญหน้าที่สร้างความหวาดวิตกไปทั่วโลกในปี 2544 ที่เครื่องบินขับไล่กองทัพมังกรและเครื่องบินสอดแนมสหรัฐฯเฉียวชนกันกลางน่านฟ้าสากลแถวไห่หนัน จนนักบินจีนเสียชีวิตไปหนึ่งคน และเครื่องบินมะกันต้องลงจอดฉุกเฉินที่ฐานทัพอากาศจีน จีนได้กักตัวนักบินอเมริกัน 24 คนไว้ กระทั่งทำเนียบขาวออกมาขอโทษ จีนจึงยอมปล่อยตัวนักบินเหล่านี้ หลังจากนั้นก็มีการปะทะกันประปราย แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องใหญ่
USNS Impeccable ของหน่วยนาวีสหรัฐฯ ที่กำลังสำรวจข้อมูลในทะเลจีนใต้ โดยใช้คลื่นเสียงโซนาร์ สามารถติดตามภัยคุกคามใต้ทะเลลึก รวมทั้งเรือดำน้ำ-ภาพเอเจนซี
กลุ่มวิเคราะห์เชื่อไม่สะเทือนสัมพันธ์

สำหรับเหตุกระทบกระทั่งครั้งนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์เชื่อว่าไม่สะเทือนความสัมพันธ์สองชาติ ซึ่งกำลังจับมือกันแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจโลก และขณะนี้รัฐมนตรีต่างประเทศ หยาง เจี๋ยฉือ ก็ได้บินไปยังสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเตรียมการ ก่อนการประชุมสุดยอด ของ กลุ่มประเทศ จี 20 ในเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม นาย สือ อิ่นหง ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงในอาณาบริเวณ ประจำมหาวิทยาลัยประชาชนจีน ชี้ว่าทางปักกิ่งจะกำหนดจุดยืนที่แข็งมากขึ้น ระหว่างที่กำลังสยายปีกนาวี ขณะเดียวกันสหรัฐฯยังคงรักษาอิทธิพลโดยส่งกองกำลังประจำการน่านน้ำทั่วโลก เหตุการณ์ท้าทายทำนองนี้ก็จะเกิดบ่อยขึ้น

สือ ยังชี้ถึงแผนขยายอิทธิพลของจีนโดยจะสร้างกองกำลังนาวีที่ทันสมัยบริเวณนอกฝั่งไห่หนัน ดังนั้น บริเวณนี้จึงมีความสำคัญมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันอธิบายว่าเรือ Impeccable ซึ่งมีความหมายว่า “ไร้จุดด่างพร้อย” เป็น 1 ใน 5 เรือลาดตระเวน ที่ประจำการในกองกำลังที่ 7 แห่งสหรัฐฯ ซึ่งมีฐานอยู่ในโยโกสุกะ ประเทศญี่ปุ่น เรือดังกล่าวจะใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำหรือโซนาร์เพื่อสืบค้นภัยคุกคามใต้ทะเล รวมทั้งเรือดำน้ำด้วย

ทั้งนี้ จีนถือว่าเขตน่านน้ำในทะเลจีนใต้ทั้งหมดนั้น เป็นของจีน และการอ้างสิทธิเหนือดินแดนดังกล่าวอันรวมถึงหมู่เกาะเล็กๆในอาณาบริเวณ ก็สร้างความขัดแย้งกับรัฐบาล 5 ชาติได้แก่ ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน, และไต้หวัน

เดนนี่ รอย ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงเอเชีย-แปซิฟิก แห่งศูนย์อีสต์-เวสต์ (East-West Centre) ในฮอนโนลูลู มลรัฐฮาวาย ชี้การเผชิญหน้าครั้งนี้ ดูจะเป็นการส่งสารแก่วอชิงตัน “ผมไม่คิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ มันจะต้องได้ไฟเขียวจากผู้นำในปักกิ่งอย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ จากการศึกษาเรื่องการทะยานสู่อำนาจของจีนเมื่อเร็วๆนี้ โดยสำนักคลังสมองกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งชาติจีน ระบุว่า จีนจะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับวอชิงตัน แต่จะไม่มีวันถอยเมื่อถูกกดดัน

ตลาดน้ำมันตกใจ

เหตุการณ์กระทบกระทั่งของสองยักษ์ผู้บริโภคน้ำมัน ได้ดันราคาน้ำมันดิบโลกสูงร้อยละ 3 และยังคงรักษาระดับสูง กว่า 47 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรลในวันอังคาร(10 มี.ค.) แม้กลุ่มนักวิเคราะห์จะออกมาชี้ว่าเหตุการณ์ตึงเครียดนี้จะไม่คุกคามแหล่งน้ำมัน หรือดีดราคาน้ำมันสูงขึ้น

“ผมเห็นความเสี่ยงในภูมิรัฐศาสตร์ของสองชาติผู้ผลิตน้ำมัน แต่สหรัฐฯและจีนก็เป็นผู้บริโภคใหญ่ ผมไม่เห็นเหตุผลที่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นเพราะเรื่องนี้” โทนี่ นูหนัน ผู้จัดการความเสี่ยง ประจำ มิตซูบิชิ คอร์ป ในกรุงโตเกียวชี้
กำลังโหลดความคิดเห็น