โฆษกส่วนตัวนายกฯ เผยอัยการสูงสุด-บัวแก้ว บุกเกาะฮ่องกงควาญหาตัว “นช.แม้ว” แล้ว เตรียมประสานรัฐบาลจีนส่งตัวกลับมารับกรรม ลั่นกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ ชี้คนรวยก็มีสิทธิ์ติดคุกได้ ด้าน “สาธิต” จี้ “พัชรวาท” สอบ ส.ส.ไข่แม้ว เผยที่กบดาน “นายใหญ่” หากไม่ยอมเปิดปากเจอ ม.189 พร้อมเร่งดำเนินคดีกับแก๊งหางแดงถ่อย รุมทำร้ายคนที่พิษณุโลก
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าจะไม่มีการปาฐกถาที่ฮ่องกงวันที่ 2 มี.ค.แล้วว่า เป็นไปตามที่คาดหมายเพราะเป็นการสร้างประเด็นในการชิงพื้นที่ข่าวในช่วงที่รัฐบาลไทยจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จึงขอถามว่าถ้าไม่กลัวแล้ว จะเปลี่ยนวิธีมาเป็นการโฟนอินแทนทำไม
นายเทพไทกล่าวอีกว่า เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังคงอยู่ในประเทศฮ่องกง เนื่องจาก ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้ (1 มี.ค.) จะมี ส.ส.เพื่อไทยจำนวนหนึ่งจะเดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 600 ไปฮ่องกงเพื่อพบ พ.ต.ท.ทักษิณ และพ.ต.ท.ทักษิณก็มีบ้านพักอยู่ในฮ่องกง เพียงแต่ชอบทำตัวเป็นนินจาทำตัวหลบซ่อนเร้น ซึ่งหากมีการโฟนอินจริง ถ้าไปถามนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณและอดีต รมว.การต่างประเทศ คงจะตอบว่าเป็นการโฟนอินมาจากน่านน้ำสากล
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนยังทราบมาว่าเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมามีตัวแทนของสำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ รวม 3 คน เดินทางไปที่เกาะฮ่องกงเพื่อติดตามและสังเกตการณ์ และประสานงานกับหน่วยงานราชการของฮ่องกง เพื่อติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีอาญาที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และเป็นผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ ไม่ใช่เป็นคดีการเมืองอย่างที่กล่าวอ้างมา
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่ารัฐบาลนี้อาฆาตมาดร้ายต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะ 1.มีที่พำนักที่ชัดเจนว่าที่อยู่ที่ประเทศฮ่องกง 2.มีการจัดกิจการอย่างทางการเมืองอย่างเปิดเผย ท้ายทายอำนาจรัฐ 3.พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลตัดสินมีโทษจำคุกตามอาญาแล้ว เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และ 4.รัฐบาลจำเป็นต้องทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์ ตามที่รัฐประกาศว่าจะใช้นิติรัฐกับทุกกลุ่มและทุกคน เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาว่า “ไม่ได้มีคุกขังแต่คนจน แต่คนรวยที่ผิดกฎหมายก็มีสิทธิ์ติดคุก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เขตปกครองพิเศษฮ่องกงไม่ได้ทำสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย จะสามารถดำเนินการติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดีได้หรือไม่ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค กล่าวว่า สามารถทำได้หลายวิธี คือ การประสานงานกับรัฐบาลจีนโดยตรง ในฐานะรัฐต่อรัฐ โดยผ่านวิธีการทางการทูต เนื่องจากเป็นผู้ร้ายหลบหนีออกนอกประเทศ และศาลได้ออกหมายจับแล้ว ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ตามที่อยู่ในประเทศหรือหากหนีออกนอกประเทศ ก็ประสานกับประเทศนั้นๆ เพื่อให้ตรวจสอบที่อยู่ที่แน่นอนในประเทศนั้นๆ จากนั้นก็ประสานกับตำรวจสากล โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องส่งเอกสารซึ่งเป็นที่อยู่ที่แน่ชัดในต่างประเทศนั้นๆ พร้อมกับทำหนังสือชี้แจงการติดตามตัว รวมถึงสำเนาหมายศาลให้สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการผ่านวิธีทางการทูตประเทศนั้นๆ ซึ่งพนักงานอัยการฝ่ายต่างประเทศ ในฐานะผู้ประสานงานกลางจะเป็นผู้พิจารณาจัดทำคำร้อง เพื่อขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามขั้นตอนต่อไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศ กำลังเดินกานประสานงานกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปติดตามหาข้อมูลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศฮ่องกง ยืนยันว่าเป็นเรื่องของพรรค ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของรัฐบาล ส่วนวันเวลาและบุคคลที่จะเดินทางไปขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนด อย่างไรก็ตาม ในวันอังคารที่ 3 มี.ค. เวลา 13.00. น. ตนจะเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ ส.ส.ที่เดินทางไปพบ พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี และ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เนื่องจากเป็นบุคคลที่รู้แหล่งที่อยู่ที่ถูกต้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งการไปพบพ.ต.ท.ทักษิณไม่ผิด แต่หากบุคคลเหล่านี้ไม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ จะถือเป็นว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 189 ข้อหาให้การช่วยเหลือให้พ้นจากการถูกจับกุม
นายสาธิตกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่ระบุว่าจะนัดรวมตัวกันระยะเวลา 1 เดือนให้ได้ 1 ล้านคนนั้น ตนขอเรียกร้องไปยังกลุ่มคนเสื้อแดง 3 ข้อ คือ 1.อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการล้มล้างรัฐบาลและล้มล้างความเชื่อมั่นของประเทศไทย 2.ขอให้ยุติพฤติกรรมความรุนแรง และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ยกตัวอย่างกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการรุมทำร้ายชายคนหนึ่ง และขอให้ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พิษณุโลก เร่งดำเนินคดีต่อคนเสื้อแดงและรายงานผลการตรวจสอบมาให้รัฐบาลทราบ และ 3.ขอให้แกนนำเสื้อแดงยกระดับจากการไล่รัฐบาลไปเป็นการเคลื่อนไหวในฐานะพรรคการเมือง โดยให้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเกิดใหม่ และยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการเมือง โดยให้พรรคเพื่อไทยไปเคลื่อนไหวในรัฐสภาดีกว่ามาชุมนุมตามท้องถนน ทั้งนี้ ขอชื่นชมแกนนำคนเสื้อแดง เพราะหากสามารถรวบรวมคนได้ 1 ล้านคนก็ขอนำไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถ้าหากไม่ชอบก็ให้ตั้งพรรคการเมืองใหม่
"เพื่อแม้ว"บิดประเด็น รัฐบาลกลัวเงา “แม้ว”
เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการบรรยายพิเศษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกงว่า การที่รัฐบาลพยายามสกัดกั้นการรับเชิญไปบรรยายพิเศษที่ฮ่องกงของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เป็นการแสดงออกให้รู้ว่ารัฐบาลกำลังกลัวเงาของ พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศมาแล้ว ขณะที่รัฐบาลชุดนี้ยังทำไม่ได้ การที่รัฐบาลกลัวความสำเร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณมากเกินไป เพราะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันนี้ยิ่งแย่ไปใหญ่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณรู้เรื่องนี้จริงและเคยทำสำเร็จเมื่อปี 2540 มาแล้ว ไม่เหมือนบางคนที่เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ 2-3 วิชา หรืออดีตที่ปรึกษาบริษัทสถาบันการเงินแต่กลับเจ๊งหุ้นกว่า 100 ล้านบาทที่มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณเคยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้สำเร็จแต่รัฐบาลนี้กลับไปกู้เงินสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 7 หมื่นล้านบาท พ.ต.ท.ทักษิณบริหารประเทศโดยใช้วิธีเศรษฐกิจนำการเมืองจึงแก้ปัญหาได้ รัฐบาลจึงกลัวเงา พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์ควรเลิกหลอกตัวเองจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม นายพร้อมพงศ์อ้างถึงปี 2540 แต่ไม่ได้กล่าวถึงข้อสงสัยที่ว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ขณะที่คนอื่นได้รับผลกระทบหมด เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ข้อมูลวงในเรื่องการปล่อยลอยตัวค่าเงินบาท
องุ่นเปรี้ยว นักเศรษฐศาสตร์โนเบลเป็นที่ปรึกษา"มาร์ค"
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายโจเซฟ สติกลิตซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลประจำปี 2001 จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษารัฐบาล และเห็นด้วยกับวิธีการแก้ปัญหาของรัฐบาลนี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลมีที่ปรึกษาดีแต่คนที่จะเข้ามาแก้ปัญหามีไม่กี่คนจะทำสำเร็จได้หรือ