เอเจนซี - "เฉินกว้านซีขึ้นศาล" "อาเจียวคืนวงการ"...เริ่มมีกระแสข่าว “พระเอก-นางเอก” ภาพฉาวเมื่อ 1 ปีก่อนเคลื่อนไหวอีกครั้ง
แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ ก็คือข่าว “จางป๋อจือ” ดาราสาวอีกคนที่เจอมรสุม “ภาพโป๊” ซัดกระหน่ำจนเจ้าตัวต้อง “ปิดประตู” ใส่วงการบันเทิง หันไปเลี้ยงลูกดูแลสามีกว่า 1 ปี จู่ๆ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา เธอก็มาปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญให้ชีว์ หย่งเฉวียน พิธีกรรายการโทรทัศน์ได้กระเทาะเรื่องราวชีวิตหลังจากเจอมรสุมลูกใหญ่ครั้งนั้น
หลังจากเฉินกว้านซีให้การในชั้นศาลที่ประเทศแคนาดาแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.พ.เขาก็บินมายังสิงคโปร์เพื่อเป็นแขกพิเศษร่วมกิจกรรมเปิดร้านอาหารจานด่วน "Carl’s Jr" และงานฉลองครบรอบ 60 อดิดาส แต่ประเด็นที่นักข่าวสนใจก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องราวความวุ่นวายของ "ภาพลับ" ของเฉินกว้านซี กับบรรดานางเอก,นางแบบมากหน้าหลายตาที่หลุดออกไปเมื่อปีก่อน ซึ่งเขาก็กล่าวเพียงว่า "หวังว่าทุกคนจะดีขึ้นในเร็ววัน"
หลังจากเฉินกว้านซีให้สัมภาษณ์ที่สิงคโปร์เพียงวันเดียว จางป๋อจือ เหยื่อภาพฉาวอีกรายก็ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังเก็บตัวเงียบนับปี
"ฉันยอมรับว่าตัวเองผิด ดังนั้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมาฉันถึงได้ลงโทษตัวเอง เก็บตัวเงียบไม่พบใคร” ซึ่งชนวนที่ทำให้เธอต้องออกมาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ก็คือคำพูดให้การต่อศาลของเฉินกว้านซีที่ว่า "พวกเธอเจ็บปวดมากพอแล้ว" "หวังว่าผู้เสียหายทุกคนจะมีชีวิตที่สงบสุข แข็งแรง และสามารถลุกขึ้นยืนใหม่ได้อีกครั้ง”
จางป๋อจือกล่าวว่า คำพูดพวกนี้ล้วนเป็นคำพูดเสแสร้งเหมือนกับแมวแกล้งร้องไห้ให้หนู เธอบอกว่า เฉินกว้านซีเคยแถลงข่าวว่าจะพยายามปกป้องผู้เสียหายจนถึงที่สุด แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำได้ และไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น แม้แต่พูดขอโทษก็ยังไม่เคย
“ฉันเป็นผู้เสียหาย แต่เขาไม่เคยปกป้องฉัน รูปภาพพวกนั้นทุกวันนี้ก็ยังลอยนวลอยู่ในอินเตอร์เน็ต เขาไม่เคยพยายามทำอะไรเพื่อหยุดมัน แล้วฉันจะใช้ชีวิตอย่างสงบได้ยังไง? จะลุกขึ้นใหม่ได้ยังไง?”
หลังเกิดเรื่องจางป๋อจือเคยโทรศัพท์ไปขอให้เฉินกว้านซีช่วย แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงว่า “ผมกำลังแถลงข่าว กำลังแก้ปัญหาอยู่ ไว้จะโทรกลับ” แต่แล้วหลังจากนั้นเขาก็ปิดเครื่อง และทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย และไม่มีแม้คำพูดขอโทษ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกผิดหวังในตัวเฉินกว้านซีมาก
เรื่องราวครั้งนี้แน่นอนต้องกระทบถึงครอบครัวของเธอ รวมทั้งครอบครัวของเซี่ยถิงฟงผู้เป็นสามีอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จางป๋อจือถึงกลับปล่อยโฮกลางรายการ
“คุณแม่ (ติปอล่า แม่ของเซี่ยถิงฟง) ไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย แต่ส่งตุ๊กตาดินเผา 2 ตัวถือใบบัวที่สลักว่า “ร่วมทุกข์ร่วมสุข” มาให้เป็นเชิงบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ทุกคนในครอบครัวจะร่วมกันแบกรับ! ส่วนสามีฉัน (เซี่ยถิงฟง) ยิ่งไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่ถามด้วย เขาแค่บอกว่า “ไม่เป็นไรนะ มีผมอยู่ข้างๆ”
ท้ายสุดเธอฝากคำพูดไปถึงเฉินกว้านซีว่า “ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงเหล่านี้เจออะไรมาเยอะแล้ว พวกเราไม่ขอให้เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อ 1 ปีก่อน แต่ไม่ใช่ 1 ปีให้หลังก็ยังมาทำเป็นแมวร้องไห้ให้หนู แสร้งทำเป็นสงสาร พูดอย่างทำอย่าง จนทุกคนให้อภัยเขา แล้วเขาก็ไปทำร้ายผู้หญิงต่อ...”
ด้านเอมิลี่ ผู้จัดการส่วนตัวของจางป๋อจือ ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่จางป๋อจือออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า "ที่จางป๋อจือให้สัมภาษณ์ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องต้องการจะพูด และต้องการแสดงออกถึงความคิดของตัวเองเท่านั้น"
ในส่วนของเรื่องที่จะกลับมาทำงานในวงการบันเทิงนั้น เอมิลี่ยอมรับว่าจางป๋อจือยังไม่เคยคิดเรื่องนี้ ตอนนี้ยังงดรับงานใหม่ งานที่ทำตอนนี้ก็แค่ทำตามสัญญาโฆษณาก่อนหน้านี้เท่านั้น ตอนนี้จางป๋อจือยังต้องการให้เวลากับลูกอยู่
เมื่อถามถึงเฉินกว้านซีว่า หลังจากให้สัมภาษณ์แล้ว เขาได้โทรศัพท์มาขอโทษจางป๋อจือหรือไม่นั้น เอมิลี่กล่าวเพียงว่า “ฉันไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขา”
ทางฝั่งสิงคโปร์นั้น หลังจากจางป๋อจือให้สัมภาษณ์แล้วก็มีนักข่าวไปสัมภาษณ์เฉินกว้านซีที่กำลังร่วมกิจกรรมโปรโมทอยู่ ซึ่งเขาก็ตอบว่า “ตั้งแต่ต้นจนจบมันเป็นความผิดของผมเอง ผมเข้าใจว่าเธอมีความกดดัน ถ้าเธอด่าผมแล้ว สามารถทำให้ความเจ็บปวดของเธอลดน้อยลง ผมก็ยินดีรับ”
"อาเฉิน" ให้การศาลคดีภาพฉาว อ้างไม่รู้ว่าไฟล์ที่ถูกลบจะกู้ได้