เอเอฟพี – เมื่อวันพฤหัสบดี (26 ก.พ.) จีนยืนยันว่า ไม่มีการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวยังทิเบต เพราะเกรงความไม่สงบอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน ทั้งที่ก่อนหน้านี้บริษัทท่องเที่ยวของรัฐให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลสั่งให้ยกเลิกทัวร์สำหรับชาวต่างชาติ
หม่า เจ้าซีว์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า “ตามที่ผมเข้าใจ จนถึงตอนนี้ รัฐบาลยังไม่ได้มีการแจ้งไปยังบริษัททัวร์ใดๆ ให้ระงับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าทิเบต”
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บริษัทท่องเที่ยวของรัฐ 4 แห่งในจีน และแหล่งข่าววงในในลาซา เมืองเอกของทิเบตได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทิเบตจะปิดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจนถึงปลายเดือนมีนาคม เนื่องจากหวั่นเหตุความไม่สงบจะปะทุในวันครบรอบ 50 ปี ของการลุกฮือการต่อต้านรัฐบาลจีนเมื่อปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มีนาคม
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยในทิเบตก่อนวันครบรอบดังกล่าว ขณะที่ทะไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตเมื่อวันอังคาร (24 ก.พ.) ก็ออกมาเตือนว่า รัฐบาลจีนจะงัดมาตรการรุนแรงออกมาใช้จัดการผู้ประท้วงชาวทิเบต พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวทิเบตบอยคอตต์งานฉลองปีใหม่ทิเบต ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันพุธ (25 ก.พ.) เป็นการประท้วงจีน
อย่างไรก็ตาม หม่า เจ้าซีว์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศยังยืนยันว่าขณะนี้ทิเบตมีความมั่นคง และประชาชนก็มีความสุข “ตามที่เราเห็นทางโทรทัศน์ ชาวทิเบตรู้สึกยินดีและร่าเริงกับการเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองมาก”
เอเอฟพีระบุว่า ข้อมูลจากหม่า เจ้าซีว์นั้นเป็นเรื่องยากจะพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริง เนื่องจากนักข่าวต่างชาติถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าทิเบตโดยอิสระ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของจีนก็ขึ้นตรงต่อรัฐบาล
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์พระลามะก่อจลาจลที่นครลาซาเมื่อกลางเดือนมีนาคมปีที่แล้วเนื่องจากไม่พอใจการปกครองของแผ่นดินใหญ่ จีนก็เคยห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังทิเบต ก่อนจะกลับมาอนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวได้อีกครั้งเมื่อปลายเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
โดยการประท้วงครั้งได้ลุกลามไปยังชุมชนทิเบตในมณฑลเพื่อนบ้านได้แก่ มณฑลกันซู่ ซื่อชวน(เสฉวน) และชิงไห่ ในครั้งนั้นกองกำลังทหารจากรัฐบาลจีนได้เข้าไปปราบปราม โดยรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตอ้างว่ามีชาวทิเบต 200 คนเสียชีวิต และอีกราว 1,000 คนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่รัฐบาลจีนกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 22 คนเท่านั้น
