ไชน่าเดลี่ - รัฐบาลจีนวางแผนสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ เตรียมลดค่ายผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ โดยใช้การควบรวมกิจการ ตั้งเป้าควบรวมให้ได้อย่างน้อย 10 รายจากเดิม 14 ราย
หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล รายงานในวันอังคาร( 24 ก.พ.) แผนการดังกล่าวได้รับรองโดยที่ประชุมคณะมุขมนตรีเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งในรายงานระบุด้วยว่ารัฐบาลจีนจะให้เงินสนับสนุนในภาคยานยนต์มูลค่า 5,000 ล้านหยวน (732 ล้านเหรียญสหรัฐ) ระหว่างเดือนมีนาคม - ปลายปีนี้ เพื่ออุดหนุนประชาชนในเขตบนบทที่ซื้อรถยนต์คันใหม่
อย่างไรก็ดี ทางการจีนก็กำลังพิจารณาร่างนโยบายชุดมาตรการที่จะนำไปช่วยเหลืออุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมการขนส่ง(โลจิสติกส์) และอุตสาหกรรมผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ให้สามารถฝ่าช่วงขาลงของวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในประเทศและตลาดโลก
นอกจากนี้รายงานระบุว่า เป้าหมายแผนการของรัฐบาลคือสนับสนุนการบริโภครถยนต์ ดังนั้นตัวเลขคาดการณ์ของยอดจำหน่ายรถยนต์จีนปีนี้อาจทะลุ 10 ล้านคัน และอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดจะขยายตัวที่ร้อยละ 10
สถิติยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในจีนประจำปี 2551 ซึ่งเหมารวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบัส และรถบรรทุก ขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 6.7 หรือราว 9.38 ล้านคัน อ้างอิงจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งชาติจีน ขณะเดียวกันยอดขายในเดือนมกราคมปีนี้ลดฮวบลงถึงร้อยละ 14.35
อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล ก็เสนอแนะให้ทางการจีนหันมาใช้มาตรการทางการคลังและมาตรการของรัฐในการส่งเสริมให้ผู้ผลิตจำหน่ายรถยนต์ที่ปล่อยควันพิษในระดับต่ำแทนที่เครื่องยนต์แบบเดิม ตลอดจนส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐใช้รถยนต์ที่พัฒนาและผลิตในประเทศ
สำหรับแผนการควบรวมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ จีนตั้งเป้าให้บริษัทเหล่านี้ควบรวมกันให้ได้อย่างน้อย 10 ราย จากเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน 14 ราย แต่ขณะนี้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดรายชื่อของบริษัทที่ต้องปรับองค์กร
อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังของทางการจีนมองว่าผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศควรจะผนึกกำลังกันโดยควบรวมกิจการ 2 -3 กลุ่มใหญ่ และผลิตรถยนต์เฉลี่ยเป็นรายปีราว 2 ล้านคัน หรือหากจะควบรวมเป้น 4-5 กลุ่มหลัก ก็ควรที่จะผลิตรถยนต์ออกมาในแต่ละปีเฉลี่ยที่ 1 ล้านคัน โดยเชื่อว่าการทำงานลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ได้ และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิต
ปี 2548 รัฐบาลกลางของจีนได้ผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งถือครองหุ้นในบริษัทผลิตรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ และบ่อยครั้งที่กลุ่มนี้จะมองหาลู่ทางจัดตั้งเป็นองค์กรอิสระ
โดยในปี 2551 บริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสตรี คอร์ป(SAIC) ก็สามารถควบรวมจนสามารถขึ้นแท่นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน และรองลงมาได้แก่บริษัทหนันจิง ออโตโมบิล กรุ๊ป
ขณะเดียวกัน แผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่รัฐบาลจีนประกาศออกมาอย่างต่อเนื่องได้แก่ แผนสนับสนุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งประกาศรับรองไปเมื่อวันพฤหัสบดี( 19 ก.พ.) ซึ่งระบุจะใช้มาตรการด้านภาษี ฟื้นฟูภาคพลังงานโดยปรับปรุงกลไกการกำหนดราคา เดินหน้าแผนการสร้างคลังสำรองผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเข้าแทรกแซงการกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศ ส่งผลให้ผู้ผลิตแบกรับภาระต้นทุน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก