เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สองคนจากบริษัทเปี่ยวซิน เคมีคอล ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหาปล่อยของเสียสู่สิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำอุปโภค-บริโภคเป็นบริเวณกว้างในเมืองเหยียนเฉิง มณฑลเจียงซูทางภาคตะวันออกของประเทศ ขณะเดียวกันโรงงานถูกสั่งปิดแล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงาน
กรณีดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อชาวบ้านหลายรายในเมืองเหยียนเฉิง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 1.5 ล้านคน รายงานว่าตั้งแต่วันศุกร์(20 ก.พ.) แหล่งน้ำเริ่มมีกลิ่นเหน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
เบื้องต้นมีรายงานว่า ทางการงดให้บริการน้ำแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวร่วม 7 ชั่วโมง ขณะที่ทางการจีนระบุว่าสามารถให้บริการน้ำแก่ประชาชนราว 200, 000 คนได้อีกครั้งในช่วงเช้าตรู่ของวันจันทร์( 23 ก.พ.)
"หลังจากการทดสอบซ้ำ ขณะนี้น้ำประปามีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของหน่วยงานสาธารณสุขทุกประเภท" แถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่เมืองเหยียนเฉิง ที่ประกาศผ่านเว็บไซต์ขององค์กรในจันทร์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการจะรับรองคุณภาพน้ำปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่ก็ยังขอให้ประชาชนเปิดน้ำประปาทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนนำไปบริโภค เพื่อให้มั่นใจว่าของเสียที่ปนมากับน้ำได้ไหลออกจนหมดแล้ว ขณะเดียวกันทางการท้องถิ่นก็ระบุว่าจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้น้ำให้ชั่วคราว
ทั้งนี้สารเคมีส่วนใหญ่ที่ปนเปื้อนในแหล่งน้ำเป็นสารเคมีไฮดรอกซิเบนซีน ที่พบในยาฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในเมืองเหยียนเฉิง มีคำสั่งให้โรงงานสารเคมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำซึ่งเป็นแหล่งน้ำดื่มสำคัญของชาวเมือง ทุกโรงงานย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย ทว่าโรงงานหลายแห่งมักจะละเลยต่อคำสั่งอยู่เสมอ
ด้านไชน่า ยูธ เดลี่ระบุ อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อของเสียจากโรงงานเปี่ยวซิน เคมีคอล ทำให้น้ำเน่าเสียและขยายเป็นวงกว้าง
ขณะที่บริษัทในท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานของบริษัทเปี่ยวซินซึ่งผลิตผลิตภัณฑ์คลอรีนกล่าวเพิ่มเติมว่า มลพิษจากบริษัทเปี่ยวซินสร้างความเดือดร้อนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม สารเคมีที่ระบายสู่แหล่งน้ำเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งก็เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2548 ก็เคยเกิดกรณีเดียวกันนี้เมื่อโรงงานแห่งหนึ่งปล่อยสารหนูลงสู่แม่น้ำซงฮัวที่ไหลผ่านมณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ จนทำให้ประชาชนหลายล้านคนล้มป่วยเพราะบริโภคน้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าว