เอเยนซี – สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันอังคาร(7 ต.ค.) ว่าประชาชนในมณฑลกว่างซี ทางตอนใต้ของจีนกว่าร้อยคนได้รับอันตรายจากสารเคมี หลังจากดื่มใช้น้ำที่ปนเปื้อนสารหนู
สำนักข่าวซินหัวระบุ ประชาชนกว่าร้อยคนในสองหมู่บ้าน ในเมืองเหอฉือ เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง กว่างซี เริ่มมีอาการตาแดง เป็นผื่นที่หน้า และอาเจียนหลังจากดื่มน้ำที่ปนเปื้อนสารหนูเข้าไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานตัวเลขผู้ป่วยแล้วจำนวน 136 คน
เบื้องต้นแพทย์ได้นำตัวอย่างปัสสาวะของผู้ป่วยมาตรวจสอบพบว่า มีสารหนูอยู่ในปัสสาวะของคนกลุ่มนี้ในปริมาณที่สูงมาก เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณแหล่งน้ำเป็นต้นเหตุในการปล่อยของเสีย
อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นกลับระบุว่า สารเคมีที่รั่วไหลสู่แหล่งน้ำในเมืองเหอฉือ ไม่มีความรุนนแรงแต่อย่างใด ขณะเดียวกันบอกว่าชาวบ้านที่ป่วยเพราะสารเคมีก็ได้รับการรักษาแล้ว อีกทั้งทางการยังได้ขนส่งน้ำดื่มสะอาดให้กับชาวบ้านอีกด้วย
ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ทว่าปัญหาสารเคมีรั่วซึมซึ่งส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์นั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อยๆ ในประเทศจีน เช่นเมื่อปี 2005 เกิดเหตุโรงงานผลิตสารเบนซินในจี๋หลินระเบิด เป็นเหตุให้มีสารเคมีอันตรายรั่วไหลลงสู่แม่น้ำซงฮวา
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้นำระดับสูงของจีนได้ให้ความสนใจกับคุณภาพของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะเมืองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ก็พบว่ามีแหล่งน้ำปนเปื้อนมลพิษเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อแหล่งซัพพลายน้ำของเมืองสำคัญหลายแห่งของประเทศ
ทั้งนี้ สารหนู เป็นสารกึ่งโลหะ มีลักษณะเป็นผงสีเทาโดยทั่วไปในธรรมชาติเกิดจากการชะล้างของหินและแร่ที่มีสารหนูประกอบ นอกจากนี้ยังพบในอุตสาหกรรมบางชนิดเช่น การทำเหมืองแร่ การถลุงโลหะ โดยอันตรายของสารหนูมีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง หากเนื้อเยื่ออวัยวะที่สัมผัสอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นตะคริวได้