เอเอฟพี – จีนตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตพลังงานนิวเคลียร์ให้ได้ 70 กิกกะวัตต์ภายในปี 2563 เพื่อยืนยันการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปรมาณูที่จะส่งไปป้อนตลาดโลก เผยกำลังผลิตมหาศาลเช่นนี้ เพียงพอสำหรับเมืองขนาดนครซาน ฟรานซิสโกถึง 70 แห่ง
ทั้งนี้ รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ที่อ้างหนังสือพิมพ์ 21 เซ็นจูรี่ บิสสิเนส เฮรัลด์ ที่อ้างข้อมูลจากคณะกรรมการบริหารพลังงานแห่งชาติ (National Energy Administration) ระบุว่า หากคณะผู้บริหารของรัฐบาลจีนอนุมัติแผนการดังกล่าว ทางการจีนก็จะต้องปรับแผนที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ว่าในอีก 11 ปีข้างหน้าจีนจะผลิตพลังงานนิวเคลียร์ได้ 40 กิกกะวัตต์ โดยปัจจุบันนี้ เครื่องปฏิการณ์นิวเคลียร์ทั้ง 11 แห่งในจีนสามารถผลิตพลังงานได้รวมทั้งสิ้น 9 กิกกะวัตต์
ขณะที่ นายฟู หมั่นฉาง (Fu Manchang) เลขาธิการสมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า “ขณะนี้เราสามารถผลิตพลังงานนิวเคลียร์ได้อย่างน้อย 60 กิกกะวัตต์ การจะปรับเพิ่มเป็น 70 กิกกะวัตต์นั้นไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย”
รายงานข่าวระบุอีกว่า หากแผนการดังกล่าวสำเร็จ ก็จะทำให้จีนมีสัดส่วนการตลาดของพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลกเพิ่มเป็น 5 เปอร์เซ็นต์จากปัจจุบันที่สัดส่วนตลาดของจีนมีมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อย
พลังงานนิวเคลียร์ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่สะอาด ซึ่งจีนหวังจะนำมาใช้แทนพลังงานถ่านหิน ที่ตอนนี้มีการใช้อยู่ถึง 2 ใน 3 ของความต้องการพลังงานทั่วประเทศ และเมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งทำให้พลังงานนิวเคลียร์ที่จะเข้ามาแทนน้ำมันเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น
แผนการของจีนดังกล่าว ได้สร้างความหวังให้แก่อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ในระดับโลก ที่มีตัวแทนเป็นบริษัทชั้นนำ อย่างเช่น อารีว่า (Areva) จากฝรังเศส, เวสติงเฮ้าส์ ของอเมริกา และจีนยังจะเป็นตลาดที่ป้อนแร่ยูเรเนี่ยมให้แก่บริษัท แองโกล-ออสเตรเลียน บีเอชพี บิลลิตัน (Anglo-Australian BHP Billiton) อีกด้วย