xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯจี้รัฐเปิดข้อมูล “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์” สู่ภาคประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในต่างประเทศ รูปแบบนี้กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมกับนิคมอุตสาหกรรมอีกหลายแห่ง ที่จ.นครศรีธรรมราช พันธมิตรฯและชุมชน หวั่นปัญหามลพิษจะตามมา ทำให้เวลานี้ในพื้นที่มีการเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการแล้ว
นครศรีธรรมราช - แกนนำพันธมิตรฯ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นป้ายต้านโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังคณะทำงานลงสำรวจพื้นที่เตรียมการและพ่วงเขตนิคมอุตสาหกรรมใน 3 อำเภอ หวั่นส่งผลกระทบร้ายแรงต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งจะส่งผลอันตรายหากไม่มีการจัดการที่ดี จี้ภาครัฐเปิดเผยข้อมูลทุกด้านเพื่อลดความคลุมเครือและแรงเสียดทานต่อสังคม โดยให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ลั่นภายใน 3 เดือนจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อตอกย้ำว่า ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ไม่ใช่ภาครัฐสั่งเป็นสั่งตายเพียงฝ่ายเดียว

หลังจากที่กระแสข่าวในการสำรวจพื้นที่ของคณะทำงานสำรวจความเหมาะสมของพื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ นำโดย พล.อ.อ.พิเนต ศุกรวรรณ ในฐานะประธานคณะทำงาน พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา เข้าพบกับนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อหารือและแจ้งถึงการดำเนินงานในพื้นที่ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2551

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปรากฏว่ากระแสของการต่อต้านในการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ รวมไปถึงนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่แลนด์บริดจ์ ในโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด ได้เริ่มปรากฏขึ้นโดยมีนายทรงวุฒิ พัดแก้ว แกนนำพันธมิตรฯ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวองค์กรพัฒนาเอกชน ในกลุ่มศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ได้นำแผ่นป้ายไวนีลขนาดใหญ่ติดตั้งแสดงการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และเขตนิคมอุตสาหกรรมใน 3 อำเภอของนครศรีธรรมราช คือ อ.ขนอม อ.สิชล และ อ.ท่าศาลา ที่บริเวณสะพานลอยบ้านในถุ้ง อ.ท่าศาลา

นายทรงวุฒิ พัฒแก้ว เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวต่อต้าน กลุ่มศึกษาการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ได้ร่วมกับเครือข่ายชาวบ้านในพื้นที่ เริ่มจากการสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ชาวบ้านจึงเริ่มก่อตัวเป็นกลุ่ม ภาคประชาสังคมเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของกลุ่มศึกษาการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้รวบรวมข้อมูลเสนอต่อชาวบ้าน

ล่าสุด ได้ก่อเกิดชาวบ้านเป็นองค์กรอย่างเข้มแข็งขึ้น เช่น เครือข่ายประมงพื้นบ้านท่าศาลา กลุ่มรักทุ่งปรัง และมีกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างหลวมๆ ที่กำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งขึ้น ร่วมกันติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการทุกขั้นตอน การตัดสินที่เหลือเป็นเรื่องของชาวบ้านเองที่มีอิสระในการดำเนินการ

“มาวันนี้ต้องยอมรับว่าชาวบ้านกลัวผลกระทบที่จะตามมากับโครงการมาก และจะกระทบต่อนิเวศวิทยาเป็นลูกโซ่กว้างขวางโดยเฉพาะใน อ.สิชล ชายฝั่งมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดของนครศรีธรรมราช ชาวประมงจากหลายอำเภอมาทำมาหากินที่นี่ ในปัจจุบันชาวบ้านไม่รู้ข้อมูลเลยหรือรู้ก็รู้น้อยมาก ซึ่งหลังจากรู้แล้วพบว่าเขาลุกขึ้นมาเตรียมเคลื่อนไหวต่อสู้ และใน 2-3 เดือนข้างหน้าเขาจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เพื่อให้รัฐรู้ว่าเรากำลังขับเคลื่อนแล้ว” นายทรงวุฒิกล่าว

ด้านนายอภินันท์ เชาวลิต นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา (อบต.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ชาวบ้านรู้เรื่องการศึกษาพื้นที่ ในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์น้อยมาก หลายรายเมื่อรู้เขาจึงแสดงออกถึงการต่อต้าน ขณะเดียวกันมีองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอมาเคลื่อนไหวให้ความรู้แก่ชาวบ้าน

“ทางที่ดี ทางการควรเปิดเผยถึงข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้ เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่าเงียบทางการไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรออกมาเลย ซึ่งการใช้พื้นที่ในโครงการเช่นนี้กว้างขวางมากย่อมที่จะมีผลกระทบ สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนคือควรที่จะเปิดเผย และมาร่วมกันเรียนรู้ศึกษา หาทางออกร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือชุมชน รวมทั้งกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องที่ดีจริงนั้นชาวบ้านเขาก็ยอมรับ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างมากเขาย่อมที่จะปฏิเสธ” นายก อบต.ท่าศาลากล่าว

นายจามร เจริญอภิบาล ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผย ว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นประโยชน์ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งหลายประเทศก็ทำจนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมืองไทยยังบกพร่องในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โรงงานส่วนใหญ่พอเห็นว่าลงทุนแล้วเป็นภาระก็ไม่ลงทุน จนก่อให้เกิดปัญหาในภายหลัง เช่นกรณีโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งถ้าทุกโรงงานทำอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมาย ปัญหาก็ไม่เกิด

“โดยส่วนตัวค่อนข้างเห็นด้วยกับการมีโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ผ่านมาคนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็เปิดใจกว้างกับเรื่องเหล่านี้มาก เช่น การก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมที่ใช้แก๊สในทะเล ก็เปิดดำเนินการมาหลายปีแล้ว คือถ้าระบบการก่อสร้างดี มีหน่วยงานราชการรับรองเราก็สนับสนุน แต่ที่เห็นในหลายพื้นที่คือควบคุมไม่ได้แต่อยากขยายมันจะกลายเป็นปัญหาตามมา” นายจามร กล่าว

นายจามร ยังกล่าวถึงการสำรวจพื้นที่ในอำเภอสิชล เพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ว่า หากต้องการใช้พื้นที่จริงก็เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะล่าสุดมีทั้งภาครัฐ และเอกชนมาสำรวจพื้นที่ในหลายจังหวัดภาคใต้ เพื่อนำโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ดมาปัดฝุ่นใหม่ แน่นอนว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องดูว่าจะทำให้ธุรกิจท้องถิ่น เช่นการประมงสูญเสียไปหรือเปล่า ถ้าสร้างอุตสาหกรรมแล้วทำลายปลาในทะเล สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ การท่องเที่ยวเสียหาย ชาวบ้านคงไม่ยอมแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น