จีนลั่นประทัดฉลองตรุษจีนปีฉลู ปลุกขวัญรับวิกฤตเศรษฐกิจ

เอเจนซี่ – พลุดอกไม้ไฟเจิดจ้าเหนือฟ้ากรุงปักกิ่งเมื่อเที่ยงคืน ตามด้วยเสียงประทัดแผดสนั่น ต้อนรับอรุณใหม่วันตรุษจีนปีฉลูบนแดนมังกร ลาทีปีเก่า 2551 อันสุดแสนโกลาหลด้วยเรื่องดีและร้าย … มหาวิปโยคจากธรณีพิโรธ, โอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง และเงาทะมึนของวิกฤตเศรษฐกิจ

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานในวันจันทร์ (26 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันตรุษจีนว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากดอกไม้ไฟ 46 คน ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 48 ขณะที่กองทัพรถพยาบาล 70 คันวิ่งตระเวนทั่วเมือง คอยรับผู้บาดเจ็บจากเหตุด่วนเหตุร้าย ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา

วันตรุษจีนนับเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวจีน ทว่าวิกฤตการเงินโลกได้พ่นพิษให้ทิศทางเศรษฐกิจของจีนในปีใหม่มัวซัว หลังจากเศรษฐกิจจีนในปีที่แล้วชะลอการเติบโตมาอยู่ที่ร้อยละ 9 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี

โรงงานหลายพันแห่งในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพึ่งพาการส่งออก พากันปิดกิจการ และมีการประเมินกันว่า ยอดคนตกงานพุ่งทะลุเกิน 2 ล้านคน

บรรดาผู้นำจีนออกมาแสดงความวิตกกังวล เพราะอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคม เมื่อคนงาน ที่ถูกลอยแพ หลั่งไหลกลับบ้านเกิด รัฐบาลให้คำมั่นสร้างงาน และกดดันพวกนายจ้าง ให้หลีกเลี่ยงการปลดพนักงาน

แต่ถึงเศรษฐกิจจะซบเซาก็ตาม พ่อค้าในกรุงปักกิ่งรายงานยอดขายประทัด, ดอกไม้ขยับเพิ่มร้อยละ 28 จากปีที่แล้ว โดยดอกไม้ไฟ 230,000 ห่อขายหมดเกลี้ยงเมื่อวันอาทิตย์

หันมาดูบรรยากาศที่ฮ่องกงกันบ้าง ผู้คนหลายหมื่นขอทิ้งเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจสักแป๊บหนึ่งด้วยการมาเที่ยวงานตลาดนัดตรุษจีนประจำปีที่วิตอเรีย ปาร์กในคืนส่งท้ายปีเก่า ชมและเลือกซื้อสินค้าสวยน่ารักละลานตาอย่างเพลิดเพลิน ตั้งแต่เครื่องประดับหรับวันปีใหม่ เช่นโคมไฟ, ป้ายอักษรมงคล, ดอกบัว ตลอดจนหมวกหนังขนสัตว์ ซึ่งตัดเย็บเป็นรูปวัว

ส่วนสินค้า ที่มีรายงานว่าขายดีมากได้แก่กังหันลม อันเล็ก ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ปัดเป่าโชคชะตาร้ายให้หมดไป

ที่วัดหวงต้าเซียนซึ่งเป็นวัดลัทธิเต๋าเนืองแน่นด้วยผู้คนราว 20,000 คน ที่พากันมาไว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังจากเศรษฐกิจฮ่องกงถดถอยในปีก่อน และประชาชนหลายพันคนต้องเสียอารมณ์ เพราะไปลงทุนด้านการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมน บราเทอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่ล้มละลายไม่เป็นท่า

เมื่อปีที่แล้ว จีนฉลองปีใหม่ด้วยพายุหิมะวิปริตผิดธรรมดา ส่งผลให้ระบบการขนส่งในภาคใต้กลายเป็นอัมพาต ถัดมาไม่นาน ก็เกิดจลาจลนองเลือดในกรุงลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต จีนถูกนานาชาติประณาม ที่ใช้กำลังปราบปรามรุนแรง

ครั้นพอเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบ 90,000 คน เสียงรุมสวดจีน แปรเปลี่ยนเป็นเห็นอกเห็นใจ และความช่วยเหลือที่หลั่งไหลมาจากนานาประเทศ

บรรดาผู้นำของจีนยังได้รับเสียงชื่นชมจากความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคม ทว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เรื่องนมปนเปื้อนสารเมลามีนก็อื้อฉาวขึ้น ร้ายแรงถึงขั้นมีเด็กทารกเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และล้มป่วยเกือบ 300,000 คน

ปีใหม่นี้จีนจะเจอเรื่องร้าย ๆ อะไรอีก? เสียงประทัดที่แผดสนั่น ขับไล่ความซวยตั้งแต่เช้าตรู่วันตรุษจีน จึงเหมือนเป็นการย้อมใจชาวแดนมังกร ให้เตรียมพร้อมเผชิญวิกฤตปัญหา ที่อาจย่างกรายเข้ามาในปีใหม่ได้เป็นอย่างดี