xs
xsm
sm
md
lg

"จีน" เป็นอีกหนึ่งบททดสอบของ "โอบามา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สื่อจีนให้ความสำคัญกับการขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯของ บารัค โอบามา ถึงขนาดขึ้นหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ (ภาพ-ซินไคว้เป้า)
เอเชี่ยน วอลสตรีท เจอร์นัล – รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหา ทั้งในบ้านตัวเอง และรอบโลก ซึ่งถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนจะมีความราบรื่น แต่ด้วยแรงกดดันสารพัดด้าน รัฐบาลของโอบามาก็อาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจีนได้

ถึงแม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา มีเสถียรภาพมากที่สุดในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันมา แต่ดูเหมือนว่าประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างกันกำลังจะกลับมามีบทบาทสูงยิ่งในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยจีน ซึ่งตกอยู่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจซบเซาย่อมจะต้องการให้ยอดเกินดุลการค้าที่มีต่อสหรัฐฯถ่างมากยิ่งขึ้น แต่ฝ่ายสหรัฐฯ ก็ต้องการลดการขาดดุลการค้า และอาจหยิบยกเรื่องความปลอดภัยของอาหารและสินค้ามาเรียกร้องกับฝ่ายจีน

“มีหลักฐานชี้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในไม่ช้า ผมจะแปลกใจมากถ้าสภาคองเกรส ไม่ทำอะไรเลยภายในฤดูร้อนนี้” ดีเร็ค ซีเซอร์ จากเฮอร์ริเทจ ฟาวเดชั่น ซึ่งเป็นคลังสมองของกลุ่มหัวอนุรักษ์นิยม ในกรุงวอชิงตัน กล่าว

ในยุคของอดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ถือว่าราบรื่นมาก เมื่อเทียบกับปัญหาที่รัฐบาลวอชิงตันมีในตะวันออกกลางและยุโรป และในศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด ประเด็นเรื่องจีนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการรณรงค์หาเสียง แตกต่างจาก การเลือกตั้งในปี 1992 ที่ บิล คลันตัน กล่าวหา จอร์ช ดับเบิลยู บุช ว่า เอาอกเอาใจ ผู้นำจีนมากเกินไป

ปัญหาใหญ่ของสหรัฐฯ ตอนนี้ คือ เศรษฐกิจ โดยในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา ยอดเกินดุลการค้าของจีนที่มีต่อสหรัฐฯ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากมาตรการกระตุ้นการส่งออกของรัฐบาลจีน และการทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่า เมื่อเทียบกับดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯต้องการลดการขาดดุลการค้ากับจีนอย่างยิ่ง โดยไม่ว่าจะมีการประชุมร่วมกันกี่ครั้ง ประเด็นเรื่องค่าเงินหยวนก็จะถูกหยิบยกขึ้นมาทุกครั้งไป

ทั้งนี้กลุ่มนักการเมืองที่สนใจเรื่องการค้า ถือว่ามีบทบาทสูงในสภาคองเกรส โดยกลุ่มที่ชอบวิจารณ์จีนจะกดดันให้ออกกฎหมายที่ทำให้กฎเกณฑ์ทางการค้ามีความเข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากกังวลว่าบริษัทอเมริกันกำลังเสียเปรียบในตลาดโลก นอกจากนี้ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของสินค้าจากจีน มาเสริมอีกด้วย

บารัค โอบามา ขึ้นมากุมบังเหียนประเทศ ในช่วงที่เรื่องเศรษฐกิจการค้าเป็นประเด็นสำคัญ นอกจากนี้คณะทำงานของเขาก็ไม่ได้สนับสนุนการค้าเสรีอย่างชัดเจน เหมือนคณะของอดีตประธานาธิบดีคลินตันและบุช ซึ่งสื่อมวลชนจีนก็เริ่มเตือนแล้วว่า จีนอาจต้องเตรียมรับมือกับลัทธิปกป้องทางการค้า

ในประเทศจีน ก็เริ่มมีการถกเถียงถึง รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯกันมากขึ้น สื่อมวลชนจีน บอกว่า โอบามา จะใช้นโยบายที่จริงจังกับจีนมาขึ้น และสื่อบางรายยังคาดว่า อาจมีการเผชิญหน้ากันเกิดขึ้น หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ ของทางการจีน ฉบับวันที่ 21 ม.ค. ระบุว่า ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับจีนเป็น “มรดกอันล้ำค่า” ที่อดีตประธานาธิบดีบุช ได้ทิ้งเอาไว้ และเรียกร้องให้ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ละเลยทิ้งไป
ในทางด้านการทหาร กระทรวงกลาโหมจีน ได้แถลงเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่าต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ หลังจากเกิดความบาดหมางกันในกรณีที่สหรัฐฯ ขายอาวุธให้กับไต้หวัน

ทั้งนี้ มีความกังวลว่า การประชุมหารือยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ (Strategic Economic Dialogue) ระหว่างรัฐมนตรีของจีนและสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง โดยริเริ่มขึ้นในสมัยของบุช จะยังจัดขึ้นต่อเนื่องในยุคของโอบามา หรือไม่? แต่ล่าสุด ผู้ช่วยของโอบามา บอกว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ อาจจะจัดการประชุมดังกล่าวต่อไป แต่ทีมงานของโอบามาจะใช้เวทีนี้กดดันจีนในเรื่องของสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย เพิ่มเติม
ไชน่า เดลี่ ฉบับวันที่ 22 ม.ค. ยังคงลงข่าวโอบามาเป็นข่าวหลักเป็นวันที่สองติดต่อกัน ซึ่งปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น