狡 (jiǎo) อ่านว่า เจี่ยว แปลว่า เจ้าเล่ห์
兔 (tù) อ่านว่า ทู่ แปลว่า กระต่าย
三 (sān) อ่านว่า ซาน แปลว่า สาม
窟 (kū) อ่านว่า คู แปลว่า โพรง ถ้ำ
ในสมัยชุนชิว รัฐฉีมีเสนาบดีผู้หนึ่ง นามว่า เมิ่งฉางจวิน เขาเลี้ยงดูคนไว้ในบ้านกว่า 3000 คน โดยแบ่งลำดับขั้นคนในบ้านไว้ 3 ลำดับคือระดับล่าง ระดับกลางและระดับสูง ซึ่งผู้ที่จัดอยู่ในระดับสูงนั้นจะมีของดีๆ จำพวกเนื้อสัตว์หรือปลารับประทานทุกๆ วัน ทั้งยังมีรถให้นั่งเมื่อออกจากบ้าน ส่วนผู้ที่จัดอยู่ในระดับกลาง จะได้รับปลาและผักเป็นอาหารประจำวัน และผู้ที่อยู่ในระดับล่างนั้นมีเพียงพืชผักเท่านั้นที่ได้รับมาประทังชีวิต
วันหนึ่ง เพื่อนของเมิ่งฉางจวินได้ฝากฝังคนผู้หนึ่ง นามว่า เฝิงเซวียน ให้เข้ามาอยู่บ้านของเขา เสนาบดีเมิ่งจึงเอ่ยถามว่า “แซ่เฝิงผู้นี้มีความรู้ความสามารถด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่?” ด้วยความถ่อมตนเฝิงจึงตอบว่าไม่มี จากนั้นเมิ่งฉางจวินก็หมดความสนใจในตัวผู้มาใหม่ เมื่อคนในบ้านเห็นว่าเมิ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนแซ่เฝิงผู้นี้เท่าใดนัก จึงได้จัดให้เฝิงเซวียนอยู่ในประเภทของคนระดับล่างในบ้าน
แต่ด้วยความชาญฉลาดของเฝิงเซวียน ไม่นานเมิ่งฉางจวิน ก็เลื่อนอันดับให้เขาจากระดับล่างมาเป็นระดับสูง ทั้งยังมอบแพรพรรณและอาหารให้กับมารดาของเขา ทำให้เฝิงเซวียนซาบซึ้งใจและคิดหาทางตอบแทนบุญคุณ
ครั้งหนึ่ง เสนาบดีเมิ่งไหว้วานให้เฝิงไปทวงหนี้ค่าเช่าของชาวบ้านในหมู่บ้านเซวีย ซึ่งเช่าที่ดินของตระกูลเมิ่งอยู่ ทว่าเมื่อไปถึง เฝิงเซวียนกลับเผาสัญญาหนี้สินและยกหนี้ให้กับลูกหนี้ทุกคนโดยแอบอ้างว่าเป็นคำสั่งของเมิ่งฉางจวิน เพื่อซื้อ "เมตตาธรรม" ให้เจ้านาย แต่เมื่อเขากลับมาการณ์กลับเป็นว่าเมิ่งฉางจวินไม่พอใจเป็นอันมาก
จากนั้นไม่นาน เมิ่งฉางจวินถูกเจ้ารัฐฉีปลดออกจากตำแหน่งเสนาบดี จึงต้องเดินทางกลับมาอยู่เมืองเซวีย ซึ่งครั้งนี้คนท้องถิ่นผู้ซึ่งเคยเป็นลูกหนี้และได้รับการยกหนี้ต่างพากันต้อนรับเขาอย่างดี ด้วยความรักและยกย่อง เขาจึงได้คิด พลางกล่าวว่า "ครานั้นที่ท่านเฝิงซื้อเมตตาธรรมให้กับข้า วันนี้ข้ามองเห็นผลของมันแล้ว"
ผ่านไปไม่นาน เฝิงเซวียนได้บอกกับเมิ่งฉางจวินว่า "กระต่ายตัวหนึ่ง ต้องการโพรง 3 โพรงเพื่อพรางตัวให้รอดพ้นจากเงื้อมมือนายพราน ทว่าท่านเวลานี้ คล้ายดั่งกระต่ายที่มีเพียงโพรงเพียงแห่งเดียวไว้อาศัย ช่างอันตรายยิ่ง หากวันใดเจ้ารัฐฉีมีความต้องการกำจัดท่านก็สามารถสังหารท่านได้ทุกเมื่อ ดังนั้นในตอนนี้ท่านไม่สามารถนอนหลับอย่างสงบได้"
เมิ่งฉางจวินได้ฟังก็วิตกและถามว่าควรทำอย่างไร เฝิงจึงกล่าวว่า "งานนี้มอบให้เป็นภาระของข้าเถิด" จากนั้นเฝิงเซวียนก็เดินทางไปพบเจ้าครองรัฐเหลียงนาม เหลียงฮุ่ย และสาธยายความดีงามและสามารถของเมิ่งให้เจ้ารัฐเหลียงฟัง เมื่อได้ฟัง เหลียงฮุ่ยจึงส่งของกำนัลมาเพื่อเชิญให้เมิ่งเดินทางไปรับตำแหน่งทางการเมืองที่รัฐของตน แต่เมิ่งได้ปฏิเสธถึง 3 ครั้ง 3 คราตามแผนการที่เฝิงบอกไว้ เมื่อข่าวนี้รั่วไหลไปถึงหูเจ้ารัฐฉี เจ้ารัฐฉีจึงเห็นว่าเมิ่งฉางจวินมีความจงรักภักดี และฟื้นตำแหน่งเสนาบดีให้เขา
แต่ไม่เพียงเท่านั้น เฝิงเซวียนยังให้เมิ่งขอพระราชทานอนุญาตจากเจ้าครองแคว้นฉี เพื่อสร้างศาลบรรพบุรุษกษัตริย์ขึ้นที่หมู่บ้านเซวีย เพราะเมื่อสร้างแล้วย่อมต้องมีทหารมาคุ้มครอง ทำให้ที่นี้กลายเป็นสถานที่ปลอดภัย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เฝิงเซวียนจึงกล่าวกับเสนาบดีเมิ่งว่า “บัดนี้โพรงทั้ง 3 ของท่านเสร็จสิ้นแล้ว ท่านสามารถนอนหลับตาลงได้อย่างเป็นสุขแล้ว”
สำนวน เจี่ยวทู่ซานคู เดิมหมายถึงมีที่หลบภัยหลายแห่ง ปัจจุบันหมายถึง มีไหวพริบ รู้ทางหนีทีไล่ดี หรือมีหลากหลายวิธีเตรียมไว้รับมือกับปัญหา