พระเมตตาและพระบารมีปกเกล้าฯ “ชลิดา” นักเรียนชั้น ม.3 ที่ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ เหตุพ่อแม่หย่าร้าง ค้างจ่ายค่าเทอมกว่าแสนบาท และเกรงว่า จะไม่ได้เรียนต่อระดับสูง โปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการประสานคณะรัฐมนตรี เพื่อขอความอนุเคราะห์ยกหนี้ค้างชำระค่าเล่าเรียนทั้งหมดของ นางสาวชลิดา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นพระเมตตาต่อ นางสาวชลิดา ด้าน ร.ร.มารีย์วิทยาเผย ยินดียกเว้นค่าเล่าเรียนให้ และระบุว่า ไม่เคยทราบปัญหาของเด็กมาก่อน
จากกรณีที่นางสาวชลิดา กูรพิศไตรย์ ซึ่งเรียนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดบวรมงคล ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือโดยส่งเรื่องไปยังสำนักราชเลขาธิการ โดยระบุว่า เดิมเคยศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา จนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนที่จะย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดบวรมงคล กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ยังไม่ได้รับวุฒิการศึกษา เนื่องจากไม่สามารถนำวุฒิการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเดิมมาแสดง เพราะยังติดค้างค่าเล่าเรียน จำนวน 120,000 บาท อยู่กับโรงเรียนเดิม สาเหตุมาจากบิดา มารดา หย่าร้างกัน ต่อมามารดาเสียชีวิต ทำให้ไม่มีเงินไปจ่าย ปัจจุบันอาศัยอยู่กับน้า ซึ่งรายได้ก็ไม่พอกับการชำระหนี้ค่าเล่าเรียนที่ติดค้างอยู่ จึงเกรงว่าจะไม่ได้ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
เมื่อสำนักราชเลขาธิการได้รับเรื่อง จึงได้แจ้งต่อมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสุดท้าย ได้มีหนังสือถึงโรงเรียนมารีย์วิทยา เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญกับอนาคตทางการศึกษาของเยาวชน จึงขอความอนุเคราะห์เพื่อยกหนี้ค้างชำระค่าเล่าเรียนทั้งหมดของ นางสาวชลิดา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นพระเมตตาต่อนางสาวชลิดา
ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี สัณฐิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้พิจารณาแล้วจึงยกเว้นการชำระค่าเล่าเรียน พร้อมออกใบรับรองวุฒิการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้ นางสาวชลิดา ศึกษาในระดับชั้นมัธยมต้น ทาง นางสาวชลิดา พร้อมด้วย นายวชิรวิทย์ บิดา เดินทางไปกราบคารวะ ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี ที่ยกเว้นการชำระหนี้ให้แก่บุตร
ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีส่วนช่วยให้ นางสาวชลิดา ได้เรียนต่อ เพราะเป็นเด็กที่อัธยาศัยดี และขอเรียนว่า ที่ผ่านมา ไม่ทราบปัญหาที่แท้จริงของเด็ก และทางผู้ปกครองก็ไม่ได้ติดต่อกับทางโรงเรียนเลย ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ นางสาวชลิดา ก็ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอื่นแล้ว แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอยากให้ นางสาวชลิดา ประพฤติตัวเป็นคนดีของสังคมต่อไป
นางสาวชลิดา กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่จะได้เรียนต่อ เพราะมีความฝันว่าอยากจะเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภาษาที่ชอบ ต้องขอบคุณทางผู้อำนวยการโรงเรียนมารีย์วิทยา ที่ให้ความเมตตา และที่สำคัญยิ่ง คือ พระมหากรุณาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนขอสัญญาว่า จะตั้งใจเรียนและประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม
จากกรณีที่นางสาวชลิดา กูรพิศไตรย์ ซึ่งเรียนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดบวรมงคล ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือโดยส่งเรื่องไปยังสำนักราชเลขาธิการ โดยระบุว่า เดิมเคยศึกษาอยู่ที่โรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา จนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนที่จะย้ายมาศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดบวรมงคล กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แต่ยังไม่ได้รับวุฒิการศึกษา เนื่องจากไม่สามารถนำวุฒิการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเดิมมาแสดง เพราะยังติดค้างค่าเล่าเรียน จำนวน 120,000 บาท อยู่กับโรงเรียนเดิม สาเหตุมาจากบิดา มารดา หย่าร้างกัน ต่อมามารดาเสียชีวิต ทำให้ไม่มีเงินไปจ่าย ปัจจุบันอาศัยอยู่กับน้า ซึ่งรายได้ก็ไม่พอกับการชำระหนี้ค่าเล่าเรียนที่ติดค้างอยู่ จึงเกรงว่าจะไม่ได้ศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
เมื่อสำนักราชเลขาธิการได้รับเรื่อง จึงได้แจ้งต่อมายังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสุดท้าย ได้มีหนังสือถึงโรงเรียนมารีย์วิทยา เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญกับอนาคตทางการศึกษาของเยาวชน จึงขอความอนุเคราะห์เพื่อยกหนี้ค้างชำระค่าเล่าเรียนทั้งหมดของ นางสาวชลิดา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นพระเมตตาต่อนางสาวชลิดา
ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี สัณฐิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนมารีย์วิทยา จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้พิจารณาแล้วจึงยกเว้นการชำระค่าเล่าเรียน พร้อมออกใบรับรองวุฒิการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้ นางสาวชลิดา ศึกษาในระดับชั้นมัธยมต้น ทาง นางสาวชลิดา พร้อมด้วย นายวชิรวิทย์ บิดา เดินทางไปกราบคารวะ ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี ที่ยกเว้นการชำระหนี้ให้แก่บุตร
ซิสเตอร์ ดร.วิภาวี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีส่วนช่วยให้ นางสาวชลิดา ได้เรียนต่อ เพราะเป็นเด็กที่อัธยาศัยดี และขอเรียนว่า ที่ผ่านมา ไม่ทราบปัญหาที่แท้จริงของเด็ก และทางผู้ปกครองก็ไม่ได้ติดต่อกับทางโรงเรียนเลย ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ นางสาวชลิดา ก็ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอื่นแล้ว แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอยากให้ นางสาวชลิดา ประพฤติตัวเป็นคนดีของสังคมต่อไป
นางสาวชลิดา กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่จะได้เรียนต่อ เพราะมีความฝันว่าอยากจะเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภาษาที่ชอบ ต้องขอบคุณทางผู้อำนวยการโรงเรียนมารีย์วิทยา ที่ให้ความเมตตา และที่สำคัญยิ่ง คือ พระมหากรุณาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนขอสัญญาว่า จะตั้งใจเรียนและประพฤติตนเป็นคนดีของสังคม
