เอเชียนวอลสตรีทเจอร์นัล – พระสังฆราชแห่งฮ่องกง โจเซฟ เฉิน ซึ่งมักวิจารณ์จีนเกี่ยวกับเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการวิทยุ ระบุเตรียมเกษียณอายุปีหน้า หลายฝ่ายเชื่อหลังจากนี้ความสัมพันธ์รัฐบาลปักกิ่งและวาติกันจะคืบหน้า
พระสังฆราชคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิกแห่งฮ่องกง โจเซฟ เฉิน (Joseph Zen) ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์คโชว์ทางสถานีวิทยุฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคมว่า เขาจะเกษียณอายุในราวต้นปีหน้า โดยเขาได้รับการอนุมัติโดยหลักการและผ่านการเห็นชอบจากพระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 16 แล้ว
“เมื่อตอนที่พ่ออายุได้ 75 ปี มันเป็นช่วงอายุที่พวกเราสามารถเกษียณได้แล้ว พ่อยื่นเรื่องเพื่อขอเกษียณอายุ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ในปีต่อมาพ่อก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง จนมาตอนนี้พ่ออายุ 77 ปีแล้ว และในที่สุดพระสันตะปาปาก็ทรงอนุญาต” โดยการเกษียณอายุของสังฆราชแห่งฮ่องกงนั้นน่าจะเป็นผลภายในครึ่งปีแรกของปี 2009
หลังจากเกษียณเขาก็จะยังคงทำงานที่โบสถ์อยู่ โดยพระสันตะปาปาได้ทรงขอให้เขาเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องจีนให้แก่โบสถ์ต่อไป
หลายฝ่ายเชื่อว่า การเกษียณของเขาจะเป็นการทำลายขวากหนามที่ทิ่มแทงพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากโจเซฟ เฉินนั้นมักออกหน้าวิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนและการเมืองของจีนอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังเชื่อว่าน่าจะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างวาติกันและจีนที่ง่อนแง่นตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์เข้าปกครองจีนในปี 1949 ให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังมีอุปสรรคสำคัญในด้านอื่นอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นครวาติกันได้พยายามอย่างหนักที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับรัฐบาลปักกิ่ง และหวังจะขยายขอบข่ายอำนาจในแผ่นดินใหญ่เพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจุบันชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในแผ่นดินใหญ่แบ่งเป็นผู้ที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์ที่มีรัฐบาลจีนแทรกแซง และโบสถ์ใต้ดินซึ่งปฏิญาณตนจะจงรักภักดีต่อวาติกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โจเซฟ เฉิน ในฐานะตัวแทนสูงสุดของโบสถ์คาทอลิกในจีน ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการที่โบสถ์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งตัดสินใจแต่งตั้งบิชอปตามใจชอบโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากวาติกัน
ด้าน ไล่ ผิ่นเชา ศาสตราจารย์ด้านศาสนาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงแสดงความคิดเห็นว่า การเกษียณอายุของพระราชาคณะเฉินนั้นจะช่วยเร่งให้ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและวาติกันกลับมาสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น แม้เขาจะตระหนักว่าระหว่างสองฝ่ายยังมีปัญหาคาราคาซังอยู่ เช่น การแต่งตั้งพระนิกายคาทอลิกในแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากวาติกัน นอกจากนี้ทางวาติกันเองก็ยังมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันด้วย
สำหรับผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากพระสังฆราชเฉินนั้นก็คือ จอห์น ถัง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นพระสังฆราชรอง โดยจอห์น ถังนั้นถูกมองว่ามีความเป็นมิตรต่อรัฐบาลปักกิ่งมากกว่า ดังจะเห็นได้จากในช่วงที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2008 รัฐบาลจีนได้เชิญถังมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ได้เชิญพระสังฆราชเฉิน
ทั้งนี้ พระสังฆราชเฉิน เกิดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ และในปี 2002 เขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำชาวคริสต์ในฮ่องกง ซึ่งรวมถึงโดนัลด์ เจิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงคนอื่นๆ พระสังฆราชมีชื่อเสียงในเรื่องจุดยืนอันเข้มแข็งเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และบ่อยครั้งที่เขาร่วมเดินขบวนและจัดการประชุมเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีนด้วย
พระสังฆราชคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิกแห่งฮ่องกง โจเซฟ เฉิน (Joseph Zen) ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการทอล์คโชว์ทางสถานีวิทยุฮ่องกงเมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคมว่า เขาจะเกษียณอายุในราวต้นปีหน้า โดยเขาได้รับการอนุมัติโดยหลักการและผ่านการเห็นชอบจากพระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 16 แล้ว
“เมื่อตอนที่พ่ออายุได้ 75 ปี มันเป็นช่วงอายุที่พวกเราสามารถเกษียณได้แล้ว พ่อยื่นเรื่องเพื่อขอเกษียณอายุ แต่ไม่ได้รับอนุญาต ในปีต่อมาพ่อก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง จนมาตอนนี้พ่ออายุ 77 ปีแล้ว และในที่สุดพระสันตะปาปาก็ทรงอนุญาต” โดยการเกษียณอายุของสังฆราชแห่งฮ่องกงนั้นน่าจะเป็นผลภายในครึ่งปีแรกของปี 2009
หลังจากเกษียณเขาก็จะยังคงทำงานที่โบสถ์อยู่ โดยพระสันตะปาปาได้ทรงขอให้เขาเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องจีนให้แก่โบสถ์ต่อไป
หลายฝ่ายเชื่อว่า การเกษียณของเขาจะเป็นการทำลายขวากหนามที่ทิ่มแทงพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาเป็นเวลายาวนาน เนื่องจากโจเซฟ เฉินนั้นมักออกหน้าวิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนและการเมืองของจีนอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังเชื่อว่าน่าจะช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างวาติกันและจีนที่ง่อนแง่นตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์เข้าปกครองจีนในปี 1949 ให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังมีอุปสรรคสำคัญในด้านอื่นอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นครวาติกันได้พยายามอย่างหนักที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับรัฐบาลปักกิ่ง และหวังจะขยายขอบข่ายอำนาจในแผ่นดินใหญ่เพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจุบันชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในแผ่นดินใหญ่แบ่งเป็นผู้ที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์ที่มีรัฐบาลจีนแทรกแซง และโบสถ์ใต้ดินซึ่งปฏิญาณตนจะจงรักภักดีต่อวาติกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โจเซฟ เฉิน ในฐานะตัวแทนสูงสุดของโบสถ์คาทอลิกในจีน ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการที่โบสถ์ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งตัดสินใจแต่งตั้งบิชอปตามใจชอบโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากวาติกัน
ด้าน ไล่ ผิ่นเชา ศาสตราจารย์ด้านศาสนาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงแสดงความคิดเห็นว่า การเกษียณอายุของพระราชาคณะเฉินนั้นจะช่วยเร่งให้ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและวาติกันกลับมาสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น แม้เขาจะตระหนักว่าระหว่างสองฝ่ายยังมีปัญหาคาราคาซังอยู่ เช่น การแต่งตั้งพระนิกายคาทอลิกในแผ่นดินใหญ่ที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากวาติกัน นอกจากนี้ทางวาติกันเองก็ยังมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันด้วย
สำหรับผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากพระสังฆราชเฉินนั้นก็คือ จอห์น ถัง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นพระสังฆราชรอง โดยจอห์น ถังนั้นถูกมองว่ามีความเป็นมิตรต่อรัฐบาลปักกิ่งมากกว่า ดังจะเห็นได้จากในช่วงที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2008 รัฐบาลจีนได้เชิญถังมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ได้เชิญพระสังฆราชเฉิน
ทั้งนี้ พระสังฆราชเฉิน เกิดที่เมืองเซี่ยงไฮ้ และในปี 2002 เขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำชาวคริสต์ในฮ่องกง ซึ่งรวมถึงโดนัลด์ เจิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงคนอื่นๆ พระสังฆราชมีชื่อเสียงในเรื่องจุดยืนอันเข้มแข็งเกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และบ่อยครั้งที่เขาร่วมเดินขบวนและจัดการประชุมเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีนด้วย