เอเอฟพี /หวนฉิวสือเป้า – เฉิน สุยเปี่ยน กบดานเงียบหลังได้รับการประกันตัวชั่วคราว ด้านอัยการเผยเตรียมอุทธรณ์ค้านประกันในเร็ววัน พร้อมแฉยังมีหลักฐานอีก 6 ข้อหาจัดการเฉิน ,ฉาวซ้ำ หลู ซิ่วเหลียน หลี่ เติงฮุย อดีต 2 ผู้นำไต้หวันมีสิทธิ์ถูกฟ้องโกงชาติเช่นกัน
แหล่งข่าวจากอัยการสูงสุดแห่งไต้หวัน เปิดเผยว่านอกจากได้ส่งฟ้องเฉิน สุยเปี่ยนและพวกใน 4 ข้อหาหนักเมื่อวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ที่ผ่านมาแล้ว ในมือของอัยการยังมีข้อมูลเตรียมส่งฟ้อง อดีตประธานาธิบดีเฉินและพวกอีกอย่างน้อย 6 ข้อหา เช่น แปรเงินทุจริตเป็นทองคำ,ปั่นหุ้น, ออกกฎหมายปฏิรูปสถาบันการเงินอย่างมิชอบ,รับสินบนจากผู้ประกอบกิจการห้างโซโก้ เป็นต้น
ทั้งนี้ บ่ายวันเสาร์ (13 ธ.ค.) เฉิน สุยเปี่ยน ได้รับการประกันตัวออกไป ไม่ต้องนอนคุกเป็นการชั่วคราว โดยนายเฉินได้เก็บตัวอยู่ที่บ้านพัก หลังจากเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่าอาจจะเขียน บล็อก ในอินเตอร์เน็ต เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาที่มีต่อตนเอง
“ผมขอบคุณทนายความและสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า รวมทั้งผู้สนับสนุนผม ที่ช่วยดูแลและให้กำลังใจ ทำให้ผมผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายและโดดเดี่ยวที่สุด 32 วันในเรือนจำมาได้” เฉิน สุยเปี่ยน กล่าว ภายหลังได้รับการประกันตัวเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม อัยการไต้หวัน ประกาศว่า จะอุทธรณ์คัดค้านคำร้องขอประกันตัวเฉิน สุยเปี่ยน ต่อศาลให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้กรณีการปล่อยตัวเฉิน สุยเปี่ยน กลายเป็นหัวข้อวิจารณ์ไปทั่วไต้หวัน เฉิน ฟังหมิง คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยการเมืองแห่งไต้หวัน เขียนบทความเสียดสีเฉิน สุยเปี่ยนว่า ใช้ประเด็นเรื่องการสร้างชาติมาเป็น ข้ออ้าง หาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง
“เฉิน สุยเปี่ยน ขายประเด็นเรื่องสร้างชาติ ซึ่งความจริงก็คือ ต้องการแยกไต้หวันเป็นเอกราช การสร้างชาติเป็นเรื่องที่นายเฉินอ้างได้เพียงเรื่องเดียว ไม่มีเรื่องนี้เเล้ว คนอย่างเฉิน สุยเปี่ยนก็ไม่มีราคาอะไร...ผมสงสัยว่าสมัย ดร.ซุนยัดเซ็น ปฏิวัติสร้างจีนใหม่นั้น โอนเงินไปซุกไปในต่างประเทศเหมือนเฉิน สุยเปี่ยนหรือเปล่า?” เฉิน ฟังหมิงเขียนในบทความ
ฉาวซ้ำ เตรียมสอบหลู ซิ่วเหลียน, หลี่ เติงฮุย โกงชาติ
นอกจากคดีของเฉิน สุยเปี่ยนแล้ว รายงานข่าวจากอัยการไต้หวัน ยังเปิดเผยเรื่องที่น่าตกใจอีกเรื่องหนึ่ง คือ ทางอัยการกำลังสืบสวน นางหลู ซิ่วเหลียน อดีตรองประธานาธิบดีคู่ใจของเฉิน สุยเปี่ยน และนายหลี่ เติงฮุย อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ว่าอาจพัวพันกับการฉ้อฉลเช่นกัน
หลู ซิ่วเหลียน หรือ แอนเน็ต หลู กำลังถูกสอบสวนกรณียักยอก งบลับ มูลค่า 5.6 ล้านเหรียญไต้หวัน (170,000 เหรียญสหรัฐฯ) โดยใช้ใบเสร็จปลอม ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2000 ถึงเดือนพฤษภาคมปี 2006 ซึ่งเป็นช่วงรองประธานาธิบดีหลูอยู่ในตำแหน่ง แต่เธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ทั้งนี้ หลู ซิ่วเหลียน เคยเรียกร้องให้เฉิน สุยเปี่ยน ขอโทษต่อชาวไต้หวัน
“ดิฉันขอเรียกร้องให้อดีตประธานาธิบดีเฉิน และครอบครัวขอโทษต่อสาธารณะและผู้สนับสนุน เนื่องจากพวกเขาได้ทำร้ายไต้หวัน และทำลายหัวใจของผู้สนับสนุน” อดีตรองประธานาธิบดีหลู กล่าว
อีกคนหนึ่งที่กำลังถูกอัยการไต้หวันสืบสวนเช่นกัน คือ หลี่ เติงฮุย อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเฉิน สุยเปี่ยน โดยหลี่ เติงฮุย ถูกสงสัยว่าช่วยเฉิน สุยเปี่ยน ฟอกเงิน
อดีตประธานาธิบดีหลี่ เติงฮุย ถูกสงสัยว่าโอนเงินมูลค่า 50 ล้านเหรียญไต้หวัน จากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งไปยังบัญชีลับที่ธนาคารในต่างประเทศ นอกจากนี้ช่วงรอยต่อระหว่างการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา กับเฉิน สุยเปี่ยน ยังพบว่ามีการโอนเงินไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านเหรียญไต้หวันไปยังบัญชีลับในสิงคโปร์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อัยการไต้หวันยังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเรื่องคดีของหลู ซิ่วเหลียน และ หลี่ เติงฮุย แต่สื่อไต้หวันต่างกำลังขุดคุ้ยเรื่องนี้อย่างดุเดือด และคาดว่าเป็นกรณีอื้อฉาวที่อาจเกี่ยวข้องกับกรณีของเฉิน สุยเปี่ยน
ทั้งนี้ หลี่ เติงฮุย ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันในช่วงปี 1988-2000 ช่วงแรกเขาถูกยกย่องอย่างมากว่าจะสานต่อความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจไต้หวัน แต่ต่อมา หลี่ เติงฮุย ชูธงแยกไต้หวันเป็นเอกราชอย่างชัดเจน ทำให้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เดือดดาล ถึงขนาดยิงขีปนาวุธมาเฉียดๆไต้หวันในปี 1995 และ 1996 เพื่อเป็นการสั่งสอน ทำให้หลี่ เติงฮุย ถูกพรรคก๊กมินตั๋งไล่ออก จนต้องตกจากเก้าอี้ผู้นำประเทศ และเฉิน สุยเปี่ยน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันคนต่อมา