เอเจนซี่ - เฉิน สุยเปี่ยน อดีตประธานาธิบดีไต้หวันเปลี่ยนสภาพเป็น “นช.เฉิน” ก้มหน้าเดินสู่แดนคุมขัง รับการตรวจเยี่ยงนักโทษ ด้านหน่วยสืบสวนเผยเงินฉ้อฉลอาจสูงถึง 3หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน ส่วนหม่า อิงจิ่ว และทางการจีน ประสานเสียงดำเนินการตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เช้าวันนี้ (12 พ.ย.) เวลา08.10 น. หลังจากศาลกรุงไทเป ลงมติให้ควบคุมตัวนายเฉิน สุยเปี่ยนอย่างเป็นทางการ อดีตผู้นำไต้หวันซึ่งต้องหาคดียักยอกทรัพย์ของรัฐ ฟอกเงิน รับสินบน และปลอมแปลงเอกสาร ได้ถูกนำตัวขึ้นรถ เดินทางจากศาลกรุงไทเปไปยังทัณฑสถานไทเป โดยมีรถตำรวจควบคุมตลอดทาง จากนั้นเวลา 08.25 น. รถควบคุมตัวเดินทางถึงทัณฑสถาน ซึ่งบริเวณโดยรอบมีการควบคุมอย่างเข้มงวดมาก กั้นแนวรั้วระยะห่าง 300 ม. พร้อมกำลังตำรวจเกือบหนึ่งพันนายดูแลความปลอดภัย ทั้งนี้ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตผู้นำไต้หวันมาในบริเวณทัณฑสถานแต่อย่างไร
8.30 น. เฉิน สุยเปี่ยน ถูกนำตัวไปยังแดนควบคุมทิศเหนือ ด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน มือทั้งสองไม่ได้สวมกุญแจมือ จากนั้น นช.เฉิน ต้องผ่านกระบวนการตรวจร่างกายตามแบบแผนของนักโทษ ตั้งแต่การตรวจตา เปลือยกายโก้งโค้งเพื่อตรวจว่าไม่มีสิ่งใดซุกซ่อนในทวารหนัก จากนั้นก็ต้องถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ และระบุหมายเลขแทนตัว ซึ่งนช.เฉิน ได้รับหมายเลข 2630 ถูกคุมขังที่ห้องขังเดี่ยวแดน 3
ทั้งนี้ นช.เฉินต้องปฏิบัติตัวตามระเบียบของทัณฑสถาน ตั้งแต่การสวมชุดนักโทษ ไว้ผมสั้นเกรียนยาว 3 ซม. ปฏิบัติตามตารางเวลากิจวัตรประจำวันทั้งกินข้าว อาบน้ำ ออกกำลังกาย และฝึกงาน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในปี 1986 นายเฉิน สุยเปี่ยน ก็เคยใช้ชีวิตในเรือนจำมาแล้วนาน 8 เดือน ภายใต้ข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งเขาก็ได้นำประสบการณ์ในคุกมาเขียนเป็นหนังสือขายด้วย
สำหรับคดีของนายเฉิน สุยเปี่ยน ไม่ได้มีเพียงแค่ การทุจริตงบลับของทางราชการเท่านั้น แต่ทีมสืบสวนยังพบว่านายเฉิน และนางอู๋ ซู่เจิน ภรรยา ตลอดจนวงศ์วานว่านเครือล้วนแต่ใช้อำนาจเรียกรับสินบนจากบริษัทต่างๆ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสสรุปในสำนวนฟ้องได้ เนื่องจากเงินฉ้อฉลได้ถูกซุกซ่อนไว้ในบัญชีเงินฝากในธนาคารต่างประเทศ และยังถูกเปลี่ยนเป็นทองคำอีกด้วย
“สินบนที่ครอบครัวนายเฉินได้รับสูงจนน่าตกใจ ไม่ใช่เพียงแค่ 1 พันล้านเหรียญไต้หวันที่สื่อรายงานไปเท่านั้น แต่ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีหลักฐานสาวไปถึง หรือถูกยักย้ายไปให้คนอื่น” หนึ่งในทีมสืบสวน เปิดเผย
ทั้งนี้มีรายงานล่าสุดว่า เฉิน สุยเปี่ยน มีบัญชีลับอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมูลค่า 3หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ทางทีมสืบสวนก็กำลังติดตามแหล่งซุกซ่อนเงินของนายเฉินที่พบว่ามีอีกหลายแห่งทั้งที่สิงคโปร์ สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนเปิดบัญชีในชื่อบุคคลอื่น
ทางด้านประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ไต้หวันว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตัวเขาไม่ยินดียินร้าย แต่สำหรับการที่เฉิน สุยเปี่ยน กล่าวหาว่า การเมืองทำร้ายเขานั้น หม่า อิงจิ่ว โต้ตอบว่า หากนักการเมืองมัวแต่โทษว่าถูกการเมืองทำร้าย กฎหมายก็จะไร้ความหมาย และยังเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับประชาชน
“จุดยืนของผมคือเคารพกฎหมายมาโดยตลอด ความรู้สึกของผมต่อเฉิน สุยเปี่ยนที่ถูกจับในครั้งนี้ คือ ไม่ทั้งเห็นใจและไม่ดีใจ เพราะเรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมาย ตัวผมเองก็จะใช้เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ไว้เตือนตัวเองด้วย” หม่า อิงจิ่ว แสดงความเห็น
หม่า อิงจิ่ว บอกว่า ตัวเขาเองก็เคยถูกกล่าวหาเรื่องคอร์รับชั่น ถึงแม้ตอนนี้ศาลจะตัดสินว่าเขาบริสุทธิื์แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บช้ำอยู่ เนื่องจากตัวเขาเป็นนักกฎหมาย จะไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายเป็นอันขาด
“คนที่เป็นนักการเมือง หากไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม เห็นศาลเป็นสิ่งไร้ความหมาย ก็จะทำให้ประชาชนไม่ศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลมีคำตัดสินใดๆประชาชนก็จะไม่เชื่อถือ ดังนั้นนักการเมืองจึงต้องพูดจริงทำจริง เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคม” ประธานาธิบดีหม่า กล่าว
สำหรับทางฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของเฉิน สุยเปี่ยน ที่ว่าประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว สั่งจับกุมเขาเพื่อเอาใจทางการปักกิ่ง
“เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เฉิน สุยเปี่ยนเสกสรรปั้นแต่งขึ้นมา ทุกคนก็เห็นแล้วว่านี่เป็นเพียงลูกไม้เดิมๆเท่านั้น” ฟาน ลี่ฉิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวสั้นๆ พร้อมทั้งปฏิเสธจะให้ความเห็นเพิ่มเติม
เฉิน สุยเปี่ยน อ้างว่า เขาถูกประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว เล่นงานทางการเมือง
“หม่า อิงจิ่วต้องการจับผมเข้าคุก เพื่อเป็นเครื่องสังเวยเอาใจรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่” เฉินสุยเปี่ยนให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคาร หนึ่งวันก่อนที่จะถูกจับกุม
ทั้งนี้ตลอด 8 ปีในตำแหน่งผู้นำไต้หวัน เฉิน สุยเปี่ยนแสดงออกว่า สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน ซึ่งทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พอใจอย่างมาก