เอเอฟพี – ธนาคารกลางไต้หวันประกาศลดดอกเบี้ย ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 26 ปี และเป็นการลดต่อเนื่องครั้งที่ 5 ในรอบสองเดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และรับมือภาวะซบเซาของเศรษฐกิจโลก
ประกาศของธนาคารกลางไต้หวันที่มีผลในวันนี้ (12 ธ.ค.) ทำให้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดจาก 2.75% เหลือ 2.00% ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ ลดจาก 5.00% เหลือ4.25%
ทั้งนี้การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการลดมากที่สุดในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1982 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไต้หวันที่ตกต่ำต่อเนื่องมาหลายปี และยังถูกซ้ำเดิมด้วยวิกฤตการเงินโลกอีก
“การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัว อยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ” เผิง เฟยหนาน ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันกล่าว
สำนักงบประมาณ การบัญชีและสถิติแห่งชาติไต้หวัน ประมาณการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไต้หวันจะเพิ่มขึ้น 0.37% ในปีหน้า
ยอดการส่งออกของไต้หวัน เดือนพฤศจิกายนลงลด 23.3% จากปีที่แล้ว นับเป็นการลดลงที่มากที่สุด ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2001 เป็นต้นมา เนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไต้หวันในตลาดโลกลดลงอย่างมาก
ทั้งนี้ยอดการส่งไปไปยังคู่ค้าหลักสองประเทศ คือฮ่องกง และสหรัฐอเมริกาก็ลดลงอย่างมาก โดยยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้วลดลง 38.5% จากปีที่แล้ว เหลือเพียง 5,630 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 14.2% เหลือเพียง 2,380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย และความต้องการสินค้าจากต่างประเทศลดน้อยลง ทำให้การส่งออกที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เติบโตติดลบมาสามเดือนแล้ว และก็คาดว่าเศรษฐกิจก็จะอยู่ในขาลงต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปีหน้า” ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน กล่าว
“การลดดอกเบี้ยจะช่วยให้มีสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ เเต่เพราะว่าเศรษฐกิจโดยรวมแย่จริงๆ จึงทำให้ยังต้องรอดูว่ามาตรการต่างๆจะมีผลแค่ไหน” เบนเท็ม หวง จากบริษัทที่ปรึกษา Mega Wealth International Management Consultancy ให้ความเห็น