รอยเตอร์ – นักวิชาการหัวกะทิเตือน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความโกรธแค้นของคนตกงานอาจโหมกระพือสังคมจีนลุกเป็นไฟในปีหน้า เร่งรัฐบาลุมุ่งสร้างงานเป็นภารกิจสำคัญอันดับแรก
นายโจว เทียนหย่ง นักวิจัยของโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์กลางในกรุงปักกิ่งเขียนบทความเตือนรัฐบาลจีนลงใน“ไชน่า อีโคโนมิก ไทมส์” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาคภาษาจีน โดยระบุว่า ปีหน้าจำนวนชาวนา,คนตกงาน และคนยากจนจะพุ่งขึ้น เมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ7.5 อันเป็นอัตราการเติบโต ที่ช้าที่สุดในรอบหลายปี
เขาเตือนว่าความตึงเครียดระหว่างคนรวยกับคนจนจะระเบิดเป็นความไม่สงบวุ่นวายขึ้นในสังคม ซึ่งจะเป็นการท้าพิสูจน์อำนาจเด็ดขาดของพรรคคอมมิวนิสต์
“การจัดสรรแบ่งปันรายได้กันใหม่โดยวิธีการปล้นขโมยอาจขยายตัวลุกลาม และภยันตรายต่อเสถียรภาพของสังคมจะมีมากขึ้น” นายโจวระบุ
โรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์กลางเป็นสถาบันฝึกฝนผู้นำรุ่นใหม่ของจีน และนายโจวเป็นนักวิชาการ ที่สนับสนุนให้จีนมีการพัฒนาประเทศ โดยสร้างความเท่าเทียมกัน และให้เสรีภาพทางการเมือง
แม้การแสดงทรรศนะของเขามิได้สะท้อนถึงนโยบายของผู้นำจีน แต่ก็บ่งชี้ถึงความวิตกกังวลของบรรดาผู้นำในเรื่องปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมา หลังจากยอดส่งออกลดลง และมีการปิดโรงงานกันระนาวในประเทศ
นายโจวยังวิจารณ์ด้วยว่า การระบุอัตราการว่างงานในเมืองในระดับต่ำ ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงของรัฐบาล คืออยู่ที่ราวร้อยละ 4 ในขณะนี้ ส่งผลให้บรรดาผู้นำประเมินภัยคุกคามจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ที่มีต่อเสถียรภาพของสังคมต่ำกว่าความเป็นจริง
ทั้งนี้ นายโจวประเมินว่า อัตราการว่างงานในเมืองที่แท้จริงโตถึงร้อยละ 12 ในปีนี้ โดยอาจขยับถึงร้อยละ 14 ในปีหน้า
ประเทศจีนถูก“ ต้มตุ๋นโดยสถานการณ์อันน่ามหัศรรย์ของอัตราการว่างงานในเมือง ซึ่งเป็นอัตราจอมปลอม” นายโจวระบุ