เอเจนซี – ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศกำลังซบเซา บวกกับเหตุการณ์ประท้วงที่ปะทุเป็นรายวัน กดดันให้รัฐบาลกลางจีนตระหนักในปัญหาสังคมมากขึ้น ขณะที่ปัญหาการว่างงานก็กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายระหว่างวัยทำงานและสังคมจีน
เมื่อเร็วๆนี้ บทความจากเสี่ยว์สี สือเป้า ของโรงเรียนพรรคแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า วัยหนุ่มสาวจะกลายเป็นกลุ่มแรงงานที่อันตรายที่สุดของตลาดแรงงาน และระบุว่า “วัยหนุ่มสาวสันติ สังคมก็สันติ”
ด้านศูนย์วิจัยเด็กและเยาวชนแห่งประเทศจีน(CYCS) รายงานว่า นักเรียนที่จบการศึกษาในระดับมัธยมปลายมีอัตราการว่างงาน 15 % ขณะที่มาตรฐานการว่างงานของสังคมจีนอยู่ที่ 4-4.5 % โดยในรายงานของ CYCS ระบุว่า ปัจจุบัน เป็นยุคที่มีการแข่งขันและแรงกดดันสูง โอกาสในการทำงานน้อย ดังนั้นจึงส่งผลให้อัตราการว่างงานสูง
ขณะที่เมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจรุ่งเรืองอันดับต้นๆ ของประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ ได้จัดมหกรรมนัดพบแรงงานการศึกษามัธยมปลายขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งปรากฏว่ามีแรงงานเข้าร่วมกว่า 20,000 คน ขณะที่อัตรางานที่รองรับมีเพียง 5,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้พบว่าแรงงานการศึกษามัธยมปลายส่วนใหญ่ยังเรียกเงินเดือนที่ระดับ 2,000 หยวน (ราว 10,000 บาท) ขึ้นไป ขณะที่พีเพิลเดลี่รายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า ปัจจุบันบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมงานนัดพบแรงงานมักจะกำหนดเงินเดือนในช่วงทดลองงานให้บัณฑิตจบใหม่ระหว่าง 800- 1,000 หยวนเท่านั้น
จากสถิติของทางการจีนในปลายปี 2005 พบว่าวัยหนุ่มสาวอายุระหว่าง 14-29 ปี มีทั้งหมด 294 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่วัยหนุ่มสาวอายุระหว่าง 14-39 ปี มีทั้งหมด 429 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34 ของประชากรทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการก่อตั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ ขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างกว้างขวาง จึงทำให้ในแต่ละปีมีนักศึกษาที่ป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงานมากกว่าตำแหน่งงานที่มีอยู่ในระบบ
ทั้งนี้ ในรายงานของศูนย์วิจัยเด็กและเยาวชนแห่งประเทศจีน(CYCS) ก็ระบุด้วยว่าปัจจุบันวัยหนุ่มสาวในจีนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่รุมเร้าได้ และผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-39 ปีเป็นกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงเป็นอันดับต้นๆ