เอเชี่ยน วอลสตรีท เจอร์นัล – ค่ายหนังปวดหัวมือก๊อปจีน ใช้แผ่น “AVCHD” ซึ่งเป็นแผ่นดิสก์ความละเอียดสูงตบตาผู้บริโภคว่าเป็นแผ่นบลูเรย์ (Blue Ray) วางจำหน่ายว่อนทั่วตลาด และส่งออกไปทั่วโลก เผยเพราะต้นทุนการผลิตต่ำและคนซื้อแยกแยะระหว่างแผ่นบลูเรย์แท้กับเทียมไม่ออก
อุตส่าห์มีผู้คิดค้นแผ่นบลูเรย์ ดิสก์ นวัตกรรมใหม่ความละเอียดสูงขึ้นมาเพื่อหยุดมือก๊อปทั้งหลาย แต่ล่าสุดค่ายหนังค่ายละครต้องปวดหัวตึ้บอีกครั้ง เมื่อบรรดามือก๊อปจีนใช้แผ่นภาพยนตร์ AVCHD ซึ่งมีความละเอียดสูงระดับหนึ่งมาตบตาผู้บริโภคว่าเป็นแผ่นภาพยนตร์บลูเรย์คุณภาพสูงของฮอลลิวูด โดยเมื่อปลายเดือนที่แล้วทางการจีนได้เข้าทลายรังผลิตแผ่นภาพยนตร์ปลอมในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงของจีน เช่นเรื่อง “Harry Potter and the Philosopher’s Stone” และ “Transformer” และพบว่าแผ่นผีที่ริบได้นั้นบรรจุอยู่ในกล่องบลูเรย์เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว นอกจากนี้ยังมีการริบเครื่องพิมพ์เทคโนโลยีโฮลิแกรมเพื่อทำให้แผ่นดูเหมือนของจริงที่สุด
ทั้งนี้ แผ่น AVCHD เป็นแผ่นดิสก์เกรดต่ำกว่าบลูเรย์ โดยมีความละเอียดภาพสูงสุด 720 พิกเซล ขณะที่แผ่นบลูเรย์มีความละเอียดสูงสุดถึง 1,080 พิกเซล แต่ก็ยังให้ภาพที่คมชัดกว่าดีวีดีธรรมดาทั่วไปเมื่อเปิดกับโทรทัศน์ความละเอียดสูง ขณะที่แผ่นบลูเรย์นั้น เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ลำแสงสีฟ้าแทนการใช้อินฟราเรดแบบเก่า ทำให้มีความจุ ความแม่นยำและความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงขึ้น
แม้ว่าคุณภาพของบลูเรย์จะสูงกว่า แต่เพราะราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง จึงยังเป็นจุดอ่อนให้มือก๊อปใช้ตีตลาดอยู่ โดยราคาของแผ่นภาพยนตร์บลูเรย์ดิสก์นั้นมีสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ (ราว 1,000 บาท) แต่แผ่นภาพยนตร์บลูเรย์เก๊ของจีนราคาแค่ 7 เหรียญเท่านั้น (200 กว่าบาท)
ด้าน Motion Picture Association หรือ MPA ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยกำหนดเรทติ้งให้ภาพยนตร์คาดการณ์ว่า ภายใน 6 ปีข้างหน้า แผ่นดิสก์ปลอมดังกล่าวจะเกลื่อนตลาดคิดเป็นสัดส่วน 10% ของแผ่นก๊อปปี้ทั้งหมดในจีน โดยไมค์ เอลลิส กรรมการผู้จัดการของ MPA ประจำเอเชียแปซิฟิกเผยว่า "ดีวีดีปลอมจากจีนนั้นถูกส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา"
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์พยายามผลักดันบลูเรย์ออกสู่ตลาดเพื่อฉุดรายได้จากยอดขายดีวีดีเดิมที่ตกต่ำ โดยบริษัทบันเทิงทั้งหลายหวังว่าผู้บริโภคจะอัพเกรดขึ้นมาบริโภคแผ่นหนังคุณภาพแต่ราคาสูงดังกล่าว และจากการสำรวจพบว่าจนกระทั่งวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา แผ่นบลูเรย์ดิสก์นั้นครองส่วนแบ่งตลาดโฮม-วีดิโออยู่ประมาณ 6%