xs
xsm
sm
md
lg

หนังสือ กินข้าวกับอาม่า/คอลัมน์หิ้งหนังสือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปกสวยของ กินข้าวกับอาม่า - วัฒนธรรมอาหารการกินของลูกจีนในเมืองไทย
You are what you eat.

สำนวนฝรั่งข้างต้นบ่งบอกได้ดีถึง ความสำคัญของการรับประทานอาหารว่า สามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรม บอกถึงนิสัย รวมถึงบ่งบอกถึงชะตาชีวิตได้เลยทีเดียว กล่าวคือ รู้จักกินชีวิตก็ยืนยาว สวาปามมั่วๆ ซั่วๆ ชีวิตก็ไม่เป็นสุข อาจท้องแตกตายเหมือนชูชก หรือ เป็นมะเร็งตับเหมือนอดีตผู้นำประเทศบางคนได้

หากจะกล่าวไป สำนวนฝรั่งข้างต้นถือว่ามีความเชื่อมโยงกับสำนวนจีนโบราณสำนวนหนึ่งที่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น โดยสำนวนดังกล่าวระบุว่า “หมินอี่สือเหวยเทียน (民以食为天)” อันแปลเป็นไทยได้ว่า “สำหรับประชาชนเรื่องกินเป็นสิ่งสำคัญเทียมฟ้า” หรือถ้ากล่าวในบริบทของทหารก็ได้ว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” นั่นเอง

สำนวนดังกล่าวไม่เพียงมีนัยยะสำคัญทางการทหาร แต่ยังบ่งชี้ให้เห็นด้วยว่า ในวัฒนธรรมของคนจีนแล้วเรื่องอาหารการกินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

วัฒนธรรมการกิน วัฒนธรรมอาหาร (饮食文化) เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญยิ่งของชาวจีน จนอาจเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมทางการกิน-อาหาร ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในโลก ทั้งยังมีความซับซ้อนในมิติทางวัฒนธรรมที่สูงยิ่ง ด้วยความกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศจีน สภาพภูมิประเทศ-สภาวะอากาศที่แตกต่าง เชื้อชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ฯลฯ

หนังสือ กินข้าวกับอาม่า ของ คุณอดุลย์ รัตนมั่นเกษม อดีตคอลัมนิสต์ของมุมจีน ผู้จัดการออนไลน์-ผู้จัดการรายวัน ถือเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่บ่งบอกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมการกิน-อาหารของชนชาติจีนได้อย่างชัดเจน โดย คุณอดุลย์การถ่ายทอดเอาวัฒนธรรมการกิน-อาหาร ของชาวจีนเชื้อสายแต้จิ๋วในประเทศไทยออกมาในหลากหลายแง่มุม โดยสำนวนการเขียนนั้นเป็นการเขียนคล้ายเรื่องเล่า แต่ซอยเป็นตอนสั้นๆ เพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น

สำหรับเนื้อหาในหนังสือแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก คือ วัฒนธรรมการกิน ศิลปะแห่งรสและชีวิต, อาหารเทศกาล, อาหารจีนจานเด่น และ เครื่องดื่มของจีน โดยในทุกบทแทรกเอาเรื่องราวและความรู้ที่หาอ่านได้ยากไว้เพียบ อย่างเช่น หลายคนคงไม่รู้ว่าในสมัยโบราณแม้จะมีการคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า “ตะเกียบ” ขึ้นมาแล้วแต่ชาวจีนก็ยังใช้มือพุ้ยข้าวกินอยู่

“คนจีนน่าจะรู้จักใช้ตะเกียบกับมากว่า 3,000 ปีแล้ว แล้วตะเกียบมีไว้ใช้ทำอะไร เขาเอาไว้ใช้คีบผักต้มจากหม้อแกงมาไว้ในชามข้าว แล้วค่อยเอามือคลุกข้าวกินอีกที ใครขืนใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวใส่ปากจะถือว่าเสียมารยาท อะไรที่บรรพบุรุษสร้างไว้กำหนดไว้ใครก็ไม่กล้าฝ่าฝืน คนจีนจึงรักษาธรรมเนียมการกินด้วยมืออยู่นานหลายร้อยปีทีเดียวกว่าจะเลิก” (หน้า 19)

สำหรับลูกจีนแต้จิ๋วในเมืองไทยซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือที่อ่านสนุกไม่น้อย เพราะ บอกเล่าเรื่องราว ตำนาน วัฒนธรรมและประเพณี ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับอาหารการกินที่ชาวจีนแต้จิ๋วและชาวจีนเชื้อสายอื่นๆ ในเมืองไทยสัมผัสได้ในวิถีชีวิตประจำวันอย่างละเอียดและน่าสนใจ

ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือเล่มนี้มีจุดบกพร่องอยู่บ้างเล็กๆ น้อย อย่างเช่น คำสะกด-คำอ่านภาษาจีนกลางจำนวนหนึ่งไม่ถูกต้องเสียเลยทีเดียว นอกจากนี้หนังสือคงจะน่าอ่านมากกว่านี้หากมีการเพิ่มเติมรูปประกอบให้ผู้อ่านได้เห็นภาพว่า อาหาร สุรา ชนิดต่างๆ ที่กล่าวถึงนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร

กระนั้น “กินข้าวกับอาม่า” ก็ยังคงเป็นหนังสือที่น่าซื้อหามาอ่านอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ “ท้องอิ่ม” : )

รายละเอียดหนังสือ
ชื่อหนังสือ กินข้าวกับอาม่า
สำนักพิมพ์ แสงแดด
ผู้เขียน อดุลย์ รัตนมั่นเกษม
ISBN 978-974-16-8164-8
พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2551
ราคา 160 บาท

หมายเหตุ : หน่วยงาน/บุคคลใดที่ต้องการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับจีนในรูปแบบหนังสือ สามารถส่งหนังสือมาได้ที่ “โต๊ะจีน หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 102/1 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200” กรุณาวงเล็บด้วยว่า “(คอลัมน์หิ้งหนังสือ)”
กำลังโหลดความคิดเห็น