เจาะแสนยานุภาพกองทัพจีน ผ่าน"จูไห่ แอร์โชว์"

ตงฟางหวั่ง - จีน เผยแสนยานุภาพกองทัพผ่าน “จูไห่แอร์โชว์” ขนทั้งเครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ จรวดอวกาศ ร่วมแสดงกับผู้ผลิตอากาศยานนานาชาติ จับตา “เครื่องบินสะเทินน้ำ” เขี้ยวเล็บใหม่ของกองทัพจีน

นิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติครั้งที่ 7 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 9 พฤศจิกายน ที่เมืองจูไห่ ทางตอนใต้ของจีน โดยมีผู้ผลิตเครื่องบินและอากาศยานกว่า 600 รายจาก 35 ประเทศเข้าร่วมงานครั้งนี้

อากาศยานที่ได้รับความสนใจมาก ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A 380 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก, เครื่องบินขับไล่โจมตีรุ่นต่างๆของกองทัพอากาศจีน, เครื่องบินล่องหนไร้คนขับ ซึ่งใช้ในการสอดแนมและหาข่าว รวมทั้งเครื่องบินสะเทินน้ำ DXF100 ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษว่าจะเป็น “เขี้ยวเล็บ” ใหม่ของกองทัพจีน

เครื่องบินสะเทินน้ำ คือ อากาศยานชนิดหนึ่งที่บินเหนือผิวน้ำ และเนื่องจากตัวเครื่องบินไม่ได้สัมผัสกับผิวน้ำ จึงทำให้ไม่มีแรงต้านและสามารถบินด้วยความเร็วสูง เครื่องบินสะเทินน้ำจะมีความเร็วมากกว่าเครื่องบินทั่วไปในขนาดเดียวกัน โดยเครื่องบินสะเทินน้ำได้รวมศักยภาพพิเศษของเรือและเครื่องบินไว้ด้วยกัน คือ ตัวเครื่องมีขนาดเล็กแต่บรรทุกน้ำหนักได้มาก มีความเร็วสูง ใช้น้ำมันน้อย และมีความคล่องตัวสูง

ในทางการทหารเครื่องบินชนิดนี้สามารถใช้ลาดตระเวน, ต่อต้านเรือดำน้ำ และยังสามารถหลบหลีกเรดาร์ตรวจการณ์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้เป็นหน่วยป้องกันชายฝั่ง หรือเกาะ ใช้เป็นฐานเติมน้ำมัน กลางทะเลให้กับเครื่องบิน และยังอาจติดตั้งอาวุธเพื่อสนับสนุนหน่วยทหารที่กำลังยกพลขึ้นบก นอกจากนี้หากสามารถวิจัยเทคโนโลยีเพิ่มเติมได้ เครื่องบินสะเทินน้ำจะมีศักยภาพเทียบเท่าเรือรบเลยทีเดียว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า กองทัพจีนจะใช้เครื่องบินชนิดนี้เป็นอาวุธสำคัญในการโจมตีไต้หวัน

ความจริงแล้ว เครื่องบินสะเทินน้ำ ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่แต่อย่างใด เพราะขณะนี้ก็มีใช้ในการขนส่งทั่วไปแล้ว โดยสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 1600 กก. ซึ่งกองทัพจีนก็เคยผลิตเครื่องบินสะเทินน้ำที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “ฉางเหอ” มาแล้ว เพียงแต่เครื่องบินสะเทินน้ำ DXF100 ที่นำมาเปิดตัวครั้งนี้ ถูกพัฒนาให้สามารถใช้เป็นอาวุธป้องกันชายฝั่งชนิดใหม่ และยังเป็นการแสดงว่า กองทัพจีนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแสนยานุภาพทางทะเลให้ทัดเทียมกับชาติตะวันตกอีกด้วย

ในงานนิทรรศการการบินและอวกาศนานาชาติครั้งนี้ นอกจากจะแสดงถึงแสนยานุภาพของกองทัพจีนแล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีระหว่างประเทศอีกด้วย เพราะความจริงแล้วนวัตกรรมด้านอากาศยานของจีนยังล้าหลังชาติตะวันตกและรัสเซียอีกมาก โดยหากดูเฉพาะอากาศยานที่จีนวิจัยและผลิตขึ้นได้เองนั้น เทียบเท่ายุค 1970 เท่านั้น