xs
xsm
sm
md
lg

ตำราเล่มใหญ่ในการแก้วิกฤตในจีนโรคซาร์สสู่ภัยธรรมชาติถึงเมลามีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรคมือ เท้า ปากแพร่ระบาดในจีน ทำให้ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนอนุบาลและส่งทีมแแพทย์เข้าไปตรวจสุขภาพเด็กเล็ก - รอยเตอร์
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ - ย้อนรอยเหตุวิกฤตแดนมังกร จีนต้องเจอกับปัญหาหนักรุนแรง ทั้งโรคร้ายที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก อย่างซาร์สและไข้หวัดนก ปัญหาภัยธรรมชาติจากพายุหลายพื้นที่และแผ่นดินไหวที่เสฉวน รวมถึงวิกฤตศรัทธาสินค้าปนเปื้อนสารพิษจีน ที่ล้วนแต่ให้รัฐบาลจีนต้องพิสูจน์ฝีมือ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจจีนชี้ แม้เจอปัญหาหนักแต่จีนยังผงาดในฐานะผลิตสินค้าป้อนโลกไม่หล่นอันดับ!

กว่าจะก้าวขึ้นสู่ความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก จีนต้องพบอุปสรรคนานานัปการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโรคร้ายแรงเฉียบพลัน ภัยธรรมชาติ และวิกฤตศรัทธาจากสินค้าปนเปื้อนสารพิษ ที่ล้วนแล้วไม่เพียงส่งผลร้ายต่อจีน แต่ยังส่งผลกระทบกับประเทศอื่นทั่วโลก!

ซาร์ส-หวัดนก 2 โรคร้ายลามทั่วโลก

ดร.สักกรินทร์ นิยมศิลป์ หัวหน้าส่วนวิจัย สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)วิเคราะห์ว่า จีนต้องประสบปัญหาหลายประการในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดี จะลดลงหรือเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศเอเชียแปซิฟิกที่จีนล้วนเป็นคู่ค้าติดท็อป 5 ตลาดส่งออกสำคัญและอยู่ในฐานะขาดดุลการค้าให้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ล้วนถูกผลกระทบจากจีนทั้งสิ้น

ในช่วงที่ผ่านมา จีนประสบปัญหานานานับการทั้งจากกรณีโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง อย่างซาร์สและไข้หวัดนก เริ่มจากซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ซาร์สเริ่มระบาดในจีนตั้งแต่ปลายปี 2545 ลามไปจนถึงกลางปี 2546 โรคร้ายครั้งนี้ได้คร่าชีวิตคนจากทั่วโลกไปเกือบ 1,000 คน และมีผู้เสียชีวิตในจีนมากถึง 350 คน ภายหลังมีการพิสูจน์ต้นตอของโรคนี้มาจากเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ในภาคใต้ของจีน พบว่าตัวชะมดเป็นพาหะนำโรคร้ายนี้มาติดต่อสู่คน

ตามด้วยไข้หวัดนก ที่ส่งผลลามมาถึงเอเชีย และอีก 60 ประเทศทั่วโลก ก็มีต้นตอมาจากจีนเช่นกัน โดยการพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกครั้งแรก พบในห่านตัวหนึ่งในมณฑลกว่างตง เมื่อปี 2539 และปี 2540 พบการระบาดของเชื้อไปที่ฮ่องกงมีคนเสียชีวิต 6 คน จากนั้นปี 2546 ก็เริ่มมีการระบาดรุนแรงไปทั่วโลก

การระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนกเมื่อปี 2546 นี้ทำให้จีน ได้รับการประณามจากหลายประเทศทั่วโลก ในการปกปิดข้อมูลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคร้าย รวมถึงความล่าช้าในมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโลก โดยเฉพาะโรคซาร์สที่ทำให้จีนต้องทำการปลดผู้ว่าการนครปักกิ่ง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกจากตำแหน่งเนื่องจากปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาด

อย่างไรก็ดี กรณีโรคซาร์สหลังจากเกิดระบาดรุนแรงไปแล้วนั้น ขณะนี้ก็ถือว่ารัฐบาลจีนได้ควบคุมโรคร้ายไว้ได้แล้ว และรู้ถึงที่มาของโรคและมีกระบวนการควบคุมโรคนี้ที่ดีระดับหนึ่ง ส่วนโรคไข้หวัดนกได้กลายเป็นโรคประจำแถบเอเชียไปแล้ว แถมยังพบว่าเนื่องจากภาวะอากาศโลกเปลี่ยน นกอพยพไปตามที่ต่างๆ ทำให้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกจากครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีขณะนี้หลายประเทศที่เคยมีโรคนี้ระบาดได้มีประสบการณ์ในการควบคุมและรักษาโรคโดยมีการปิดล้อมพื้นที่ และกำจัดสัตว์ติดโรคอย่างรวดเร็วไปแล้ว รวมทั้งจีนด้วย

แผ่นดินไหวเสฉวนตาย 8 หมื่นราย
หลี่ ฝูชุ่ย วัย 47 ปีผู้ประสบภัยในเสฉวนร้องไห้ต่อเหตุแผ่นดินไหวที่พรากชีวิตคนในครอบครัว - เอเยนซี
ในส่วนของภัยธรรมชาติรุนแรง จีนต้องพบกับปัญหาพายุ และแผ่นดินไหวอยู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงกรกฎาคม-กันยายน และล่าสุดที่โลกต้องบันทึกไว้คือ กรณีแผ่นดินไหว 8.0 ริกเตอร์ที่อำเภอเวิ่นชวน มณฑลเสฉวน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 ที่พบมีคนเสียชีวิตครั้งนี้ไปมากกว่า 80,000 คน และเกิดอาฟเตอร์ชอคตามมาอีกหลายครั้ง ครั้งล่าสุดมีขนาด 6.1 ริกเตอร์ คร่าชีวิตคนจีนไปเพิ่มอีก 32 คน

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เสฉวนได้พิสูจน์ให้เห็นความมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาของรัฐบาลกลางจีน ซึ่งในช่วงเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนั้นเป็นช่วงที่ต่อเนื่องมาจากการเกิดภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ ตลาดหุ้นเอเชียตกลงมาก โดยเฉพาะตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ที่ตกไปมากกว่า 60 % ในช่วงเดือนตุลาคม 2550 ซึ่งตลาดหุ้นไทยได้ตกลงด้วยในช่วงนั้น 30-40% ด้วย

ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันแม้โอลิมปิคในจีนจะทำให้เศรษฐกิจจีนบูม แต่กลับพบว่ามีการปิดโรงงานกันจำนวนมาก โดยเฉพาะโรงงานทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เมื่อรวมกับการเกิดแผ่นดินไหวที่เสฉวนด้วยแล้ว จีนถือว่าได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่เศรษฐกิจจีนก็ไม่ซวนเซ เพราะรัฐบาลกลางจีนเข้ามาแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการตัดสินใจทุ่มงบก่อสร้าง และอัดเงินเข้าสู่นโยบายการคลัง ทำให้เสฉวนและพื้นที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

ปัญหาเมลามีนไม่สะเทือนศก.จีน
หมดอาชีพ...ความผิดของใคร? เกษตรกรนมนั่งสูบบุหรี่ข้างถังนมนอกโรงงานนมที่ถูกปิดชายเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย วันที่ 21 ก.ย. -รอยเตอร์
แม่ค้าขายไข่ไก่ในตลาดสดปักกิ่งกำลังคัดเลือกไข่ไก่ ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันพุธ(29 ต.ค.)ทางการฮ่องกงได้รายงานว่าตรวจพบสารเมลามีนในไข่ไก่ที่ผลิตโดยบริษัทจิ่งซัน แอกริคัลเจอรัล โปรดักซ์ ที่อยู่ในมณฑลหูเป่ย
ตามมาด้วยปัญหาที่เกิดจากการไม่ได้มาตรฐานในการผลิตของจีน ทำให้จีนเจอมาตรการการกีดกันสินค้าจากหลายประเทศทั่วโลกมาแล้วหลายครั้ง ทั้งกรณีการปนเปื้อนสารพิษในของเล่นเด็ก การพบสารพิษในยาสีฟัน ในอาหารสัตว์ ยาจีนผสมสเตรีย์ลอยด์ และล่าสุดที่บริษัทนมจีนต้องถูกเพรียกหาจริยธรรมกรณีปนเปื้อนสารเมลามีนในนมผง ทำให้เด็กจีนเสียชีวิตไปแล้ว 4 คน และป่วยจากโรคนิ่วในไตกว่า 50,000 ราย ซึ่งผลิตภัณฑ์นมผงปนเปื้อนเมลามีนครั้งนี้ได้ถูกส่งออกนำไปผลิตเป็นสินค้าอาหารหลายชนิด ซึ่งผู้บริโภคไม่รู้กี่มากน้อยทั่วโลกอาจจะได้บริโภคสารปนเปื้อนนี้ไปแล้วโดยไม่รู้ตัวด้วย

ดร.สักกรินทร์ กล่าวว่า กรณีสารปนเปื้อนของจีนที่มีมาโดยตลอดนั้น ส่งผลดีกับประเทศไทยในเรื่องอาหารมาก เพราะทำให้ไทยได้ออเดอร์เพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่าสินค้าของจีน แต่ผู้บริโภคมั่นใจว่าปลอดภัยกว่า ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือผู้ผลิตไทยที่นำส่วนผสมวัตถุดิบต่างๆจากจีนก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยให้มาก เพราะจะส่งผลร้ายต่อสินค้าอาหารไทยอย่างรุนแรงถ้าพบการปนเปื้อน

อย่างไรก็ดีแม้ว่าจีนจะเจอปัญหาวิกฤตการปนเปื้อนสารพิษในสินค้าหลายประเภท แต่แผนการบริหารประเทศของจีนที่เน้นเศรษฐกิจภายในมากขึ้น ทั้งนโยบายการเงินการคลัง เช่น นโยบายเพิ่มสวัสดิการสังคมโดยเฉพาะในเรื่องการรักษาพยาบาล ได้ส่งผลระยะยาวกับจีนที่ทำให้การบริโภคในประเทศจีนขยายตัวสูงขึ้น และไม่ถูกผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกมากนัก ทำให้การนำเข้าสินค้าบริโภคจากจีนเพิ่มขึ้นด้วย จากปีก่อนที่มีการนำเข้าสินค้าบริโภค 21% ปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 25% ด้วย

“จีนได้สร้างฟูกที่หนาไว้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการมีหนี้สาธารณะน้อย แนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันลดลง(บริโภคอันดับ 2 ของโลก) การมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นจำนวนมหาศาล มีการลงทุนของต่างชาติที่ยังมีแนวโน้มไหลเข้าจีนค่อนข้างมากกว่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ การประกาศลดดอกเบี้ยลงครั้งล่าสุด 0.5% จีนจึงสามารถทำได้ ไม่มีผลกระทบเศรษฐกิจของจีนในภาพรวม”

นอกจากนี้ข้อดีของจีนคือสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจุดๆ ได้ สามารถเพิ่มสินเชื่อไหนเป็นพิเศษหรือคุมสินเชื่อไหนเป็นพิเศษได้เช่นกัน เช่นปีที่แล้วมีการประกาศคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ปีนี้ทำให้ภาคอสังหาฯมีราคาลดลง ก็ถือว่านโยบายประสบความสำเร็จ กล่าวได้ว่า การควบคุมเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดของจีน และความเด็ดขาดในการตัดสินใจแก้ปัญหาเป็นจุดๆ ของรัฐบาลกลาง แม้จีนจะประสบปัญหามากมายทั้งจากภัยธรรมชาติ โรคระบาดร้ายแรง หรือแม้กระทั่งวิกฤตปนเปื้อนสารพิษของสินค้าจีนในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้จีนประสบภาวะเศรษฐกิจกระเทือนอย่างรุนแรงเลย ที่สำคัญจีนยังมีฐานะที่มีขีดความสามารถในการผลิตสินค้าป้อนโลกอยู่ดี!
กำลังโหลดความคิดเห็น