เอเยนซี - ทางการจีนแสดงความกังวลที่มีการคาดการณ์ว่า นายหู เจีย และ นายเกา จื้อเซิง 2 นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีน เป็นตัวเต็งที่คาดหมายว่าจะได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพปี 2008 ซึ่งจะประกาศผลในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นวาระครบรอบ 60 ปีของคำประกาศสิทธิมนุษยชนสากลขององค์การสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น เพราะรายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ197 คน ถูกปิดเป็นความลับ
หู เจีย และเกาจื้อเซิง เป็นนักรณรงค์สิทธิมนุษยชน, อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และรณรงค์เรื่องโรคเอดส์ แต่ขณะนี้ทั้งสองถูกตัดสินให้จำคุกอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ในฐานความผิดล้มล้างอำนาจรัฐ
“คณะกรรมการรางวัลโนเบล ให้ความสนใจเรื่องจีนมานานแล้ว แต่ยังไม่พบผู้ที่เหมาะสมจะรับรางวัล หรืออาจจะไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศกีฬาโอลิมปิค ซึ่งถึงแม้กีฬาโอลิมปิคจะประสบความสำเร็จ และได้รับคำชื่นชมในหลายเรื่องแต่ไม่ใช่เรื่องสิทธิมนุษยชน” นายเสติร์น ทอนเนสสัน หัวหน้าสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติ ให้ความเห็น
ทางด้านฝ่ายจีนก็ได้ออกมาคัดค้านให้ความเห็นว่า คณะกรรมการรางวัลโนเบลให้เลือกคนที่ถูกต้อง
“ทุกคนต่างทราบว่านายหู เจีย เป็นอาชญากรที่ถูกจำคุกโดยคำตัดสินของศาล ซึ่งหากคนเช่นนี้ได้รับรางวัลโนเบล จะถือเป็นการลบหลู่กระบวนการยุติธรรมและแทรกแซงกิจการภายในของจีน” ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดกันว่า ตัวเก็งอีกหลายรายก็มีสิทธิ์์ได้รับรางวัลโนเบล สันติภาพ เช่น นายลิดิย่า ยูซูโปว่า ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชาวเชเชน ผู้ที่รัฐบาลรัสเซียขึ้นบัญชีดำเช่นกัน , นายเรบิยา คาเดีย ผู้แทนชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์, นายแพทย์เดนิส มุตเวเก้ ผู้สร้างโรงพยาบาลรักษาหญิงเหยื่อความรุนแรงทางเพศในคองโก, เหวียน ควัน โด พระชาวเวียดนาม, มอร์แกน ซาร์วานกิไร ผู้นำฝ่ายค้านซิมบับเว รวมทั้ง โบโน นักดนตรีร็อคที่มีบทบาทรณรงค์เพื่อสันติภาพ
“บางครั้งคณะกรรมการโนเบลอาจเลือกที่จะให้ความสำคัญกับสงครามที่ถูกลืมในทวีปแอฟริกามากกว่า ที่จะเลือกเติมเชื้อไฟความขัดแย้งระหว่างจีน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา” เนล บูเทนเชอร์น นักวิจัยประจำศูนย์วิจัยสิทธิมนุษยชน แห่งมหาวิทยาลัยออสโล ให้ความเห็น
ทั้งนี้ในปี 1989 ทาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณชาวทิเบตได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพ ซึ่งสร้างความขุ่นเคืองให้กับรัฐบาลปักกิ่งอย่างมาก
