จีนยกเลิกความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐ ตอบโต้อเมริกาขายอาวุธ 6500 ล้านเหรียญให้ไต้หวัน
พันตรี สจ๊วต อัพตัน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงวานนี้ (6 ตุลาคม) ว่า ทางการจีนได้แจ้งมายังกระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า ขอยกเลิกและเลื่อนการแลกเปลี่ยนทางทหารระหว่างกัน โดย การเดินทางเยือนของนายทหารระดับสูง รวมทั้งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติที่มีกำหนดการก่อนเดือนพฤศจิกายนจะถูกยกเลิก
“ปฏิกิริยาตอบโต้ของทางการจีนถือเป็นเรื่องน่าเสียดาย และจะส่งผลให้จีนเสียโอกาสในหลายๆเรื่อง” พันตรีอัพตันแถลง
การยกเลิกความร่วมมือทางทหารระหว่างจีนกับสหรัฐครั้งนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งเพื่อตอบโต้การที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เสนอให้สภาคองเกรสอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวัน มูลค่าเกือบ 6500 ล้านดอลลาห์สหรัฐฯ ซึ่งอาวุธที่สหรัฐจะขายให้ไต้หวัน เช่นได้แก่ระบบต้านขีปนาวุธ ขีปนาวุธแพทริออต (PAC-3) และเฮลิคอปเตอร์อาปาเช AH-64D รวมถึงขีปนาวุธยิงเรือดำน้ำ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมจีน ก็ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านและประณามการกระทำของสหรัฐมาก่อนแล้ว
แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ก็ยังยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายขายอาวุธให้ไต้หวัน เพราะสหรัฐและไต้หวันมีข้อตกลงร่วมกันที่จะช่วยเหลือไต้หวันด้านการป้องกันประเทศ
“จีนได้ขยายแสนยานุภาพทางการทหาร ทำให้สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงทั้งของจีน ภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนแปลงไป” โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอ้าง
การเสนอขายอาวุธของสหรัฐให้ไต้หวันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไต้หวันมีนายหม่า อิงจิ่ว เป็นผู้นำคนใหม่ที่ให้สัญญาระหว่างการเลือกตั้งว่า สานสัมพันธ์์กับจีนแผ่นดินใหญ่
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้ นายเฉิน เฉาหมิน รัฐมนตรีไต้หวันจะเดินทางเยือนหลังอเมริกา ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนของนักการเมืองระดับสูงสุดที่เคยมีหลังจากปี 2002
อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสของสหรัฐมีเวลา 30 วันในการพิจารณาอนุมัติหรือคัดค้านข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมดังกล่าว แต่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้น้อย เพราะข้อเสนอขายอาวุธด้วยเงินจำนวนมากเช่นนี้ มักจะถูกพิจารณาอย่างรอบคอบมาก่อนแล้ว