เอเอฟพี – เพนตากอนแจ้งสภาคองเกรส จะประกาศขายอาวุธมูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์ให้ไต้หวัน ซึ่งรวมทั้งระบบต้านขีปนาวุธ เฮลิคอปเตอร์อาปาเช และขีปนาวุธยิงเรือดำน้ำ
สำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แจงว่า ข้อเสนอขายอาวุธดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการป้องกันประเทศของไต้หวัน แต่จะไม่เปลี่ยนความสมดุลทางการทหารพื้นฐานในภูมิภาค โดยจะเป็นการสิ้นสุดระยะเวลาร่วมปีที่ระงับการขายอาวุธให้แก่ไทเป
ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า การขายอาวุธสอดคล้องกับกฎหมายซึ่งระบุให้สหรัฐต้องช่วยเหลือไต้หวันในการป้องกันตนเอง
อย่างไรก็ดี สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ มีเวลา 30 วันในการคัดค้านข้อตกลงขายอาวุธฉบับนี้ แม้ไม่ค่อยปรากฏบ่อยนัก เนื่องจากการทำข้อตกลงขายอาวุธฉบับสำคัญมักมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อนประกาศต่อสาธารณชน
ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เผยว่า การขายอาวุธทางการทหารให้ต่างชาติได้รับการหารือ และเห็นชอบ ตามกระบวนการแล้ว และเพิ่งสิ้นสุดกระบวนการด้วยการแจ้งให้ไต้หวันทราบ
สำหรับอาวุธที่สหรัฐฯ เสนอขายให้กับไต้หวันในครั้งนี้ประกอบด้วย ขีปนาวุธแพทริออต (PAC-3) 330 ลูก มูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์ และเฮลิคอปเตอร์อาปาเช AH-64D 30 ลำ มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ยิ่งไปกว่านั้น ไต้หวันยังขอซื้อขีปนาวุธยิงเรือดำน้ำ UGM 84L อีก 31 ลำ ซึ่งมีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ด้วย
ขณะที่ หวังอูชี่ โฆษกประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วของไต้หวันได้กล่าวว่า ประธานาธิบดีต้องการขอบคุณที่สหรัฐฯ ประกาศขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน โดยรับปากจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีน
ทั้งยังระบุว่า ท่าทีของสหรัฐฯ ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ทั้งไต้หวันและสหรัฐฯ ได้มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความไม่ลงรอยเมื่อครั้งอดีตในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว
