惊(jīng) อ่านว่า จิง แปลว่า ตื่นตระหนก
弓(gōng) อ่านว่า กง แปลว่า คันธนู
之(zhī) อ่านว่า จือ คำเชื่อมคำขยายกับคำนาม
鸟(niǎo) อ่านว่า เหนี่ยว แปลว่า นก
ในสมัยสงครามระหว่างรัฐ(จั้นกั๋ว) รัฐเว่ยมีนักเกาทัณฑ์ฝีมือดีผู้หนึ่ง นามว่าเกิงเหลย วันหนึ่งเขาได้ติดตามอ๋องรัฐเว่ยไปท่องเที่ยวยังป่านอกเมือง ในขณะที่ท่องเที่ยวนั้นเอง ได้ปรากฏว่ามีนกกลุ่มใหญ่โผบินอยู่บนท้องฟ้า และมีนกอยู่ตัวหนึ่งอยู่ท้ายสุดของฝูงกำลังพยายามบินอย่างทุลักทุเลเพื่อไล่ตามคู่ของมันที่อยู่ในฝูงให้ทัน เกิงเหลยเห็นดังนั้นจึงกล่าวกับอ๋องรัฐเว่ยว่า "ท่านอ๋อง ข้าน้อยสามารถทำให้นกบนท้องฟ้าตัวนั้นหล่นลงมาโดยใช้เพียงคันธนูนี้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ลูกธนู"
"เป็นไปได้หรือ" อ๋องรัฐเว่ยถามด้วยความไม่เชื่อถือ
เกิงเหล่ยกล่าวต่อว่า "หากท่านไม่เชื่อจงรอชมดู"
สักพักนกตัวที่บินช้าที่สุดก็บ่ายหน้ามาทางกลุ่มของอ๋องรัฐเว่ย ความเร็วในการบินของมันช้ากว่าเพื่อนในฝูงอยู่หลายช่วงตัว ทั้งยังบินไม่สูงนัก เมื่อเข้ามาใกล้จึงค่อยเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นห่านป่า ครั้นห่านตัวนั้นบินเข้ามา เกิงเหลยจึงยกคันธนูขึ้นน้าวสาย และเล็งไปที่ห่านโชคร้ายตัวนั้นโดยที่บนคันธนูไม่ได้พาดลูกศรเอาไว้ จากนั้นจึงปล่อยสายเสียงดัง "ตัง!" พลันสิ้นเสียง ห่านป่าก็ร่วงลงมาจากฟากฟ้าในทันที
อ๋องรัฐเว่ยจ้องดูจนตะลึงงัน จึงค่อยรำพันว่า "มีเรื่องเช่นนี้"
เกิงเหลยยิ้มพลางกล่าวว่า "ไม่มีอันใด นี้เป็นเพียงห่านป่าที่โดนยิงด้วยธนูจนได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว"
"ท่านทราบได้เช่นไรว่าห่านตัวนี้โดยธนูยิงมาก่อน" อ๋องเว่ยได้ฟังยิ่งเพิ่มความประหลาดใจ
เกิงเหลยอธิบายต่อไปว่า "ข้าน้อยทราบได้จากลักษณะการบินและเสียงร้องของมัน ที่ห่านตัวนี้บินช้าเพราะอาการเจ็บบาดแผล เสียงร้องที่เศร้าสร้อยเป็นเพราะมันออกห่างจากคู่ของมันมานาน เมื่อแผลเดิมยังไม่หายจิตใจจึงหดหู่เป็นทุนเดิม พอมันได้ยินเสียงน้าวคันศรของข้าน้อยจึงตื่นกลัวว่าจะถูกยิงอีกรอบ และพยายามบินหนี แต่ด้วยจิตใจที่อ่อนแอเมื่อเจอความตื่นตระหนกทำให้แผลเดิมแตกปริ สร้างความเจ็บปวดจนบินต่อไปไม่ไหว สุดท้ายร่วงลงมาจากท้องฟ้า"
"วิหคตื่นคันศร" ใช้เปรียบเทียบกับผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ร้ายหรือเกิดความตื่นตระหนกในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นทุนเดิม ภายหลังเมื่อมีสิ่งใดมากระทบแม้เพียงเล็กน้อยก็มักจะตื่นกลัวอย่างยิ่ง