xs
xsm
sm
md
lg

เจพี มอร์แกนแนะจีนลดภาษี-กระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจพี มอร์แกนแนะจีนผลักดันอสังหาริมทรัพย์ อัดฉีดสร้างสาธารณูปโภคกระตุ้นเศรษฐกิจ
รอยเตอร์ – นักเศรษฐศาสตร์เจพี มอร์แกนเผยจีนควรอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสนับสนุนอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค พร้อมควรตัดเงินจากทุนสำรองระหว่างประเทศตั้งงบพิเศษกระตุ้นตลาดหลักทรัพย์ก่อนเศรษฐกิจฮวบ

หลังจีนได้ประกาศว่าเตรียมพิจารณาอนุมัติงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงมาตรการลดหย่อนด้านภาษี และการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันอังคาร (26 ส.ค.) แฟรงค์ กง นักเศรษฐศาสตร์แห่งเจพี มอร์แกน เชสวานิชธนกิจชื่อดังได้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจีนกำลังเตรียมพิจารณางบประมาณเพื่อกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจมูลค่า 400,000 ล้านหยวน ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นที่เซี่ยงไฮ้โดยระบุว่า “ก่อนหน้านี้ ผมเสนอว่าจีนควรจะใช้เงินประมาณ 200,000 ล้าน-400,000 ล้านหยวนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเห็นนี้เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ของผมเอง ไม่ได้เป็นข้อมูลจากทางการจีนอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ”

“ ในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าทางการจีนจะมีการผ่อนคลายนโยบายการคุมเข้มทางการเงินลง และภายในสิ้นปี ธนาคารกลางอาจจะมีการปรับลดเงินสำรองธนาคารพาณิชย์ลงอีก 50 จุด เพราะหากรัฐบาลไม่ใช้มาตรการใดเข้าช่วยเหลือเลย เศรษฐกิจจีนจะต้องเผชิญหน้ากับการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะทำให้อัตราการเติบโตของจีดีพีตกลงเหลือไม่ถึง 9%”

นอกจากนั้นทางเจพี มอร์แกนจึงได้มีข้อเสนอว่า รัฐบาลมังกรควรจะดึงเงินจำนวน 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯออกมาจากทุนสำรองระหว่างประเทศมหาศาลของจีน เพื่อที่จะนำมาตั้งเป็นงบพิเศษในการใช้ในการสร้างเสถียรภาพในตลาดหลักทรัพย์

“การที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของจีนในปีนี้ร่วงสะสมมากว่า 50% แต่สาเหตุนั้นไม่ได้มาจากปัจจัยมูลฐานทั้งหมด เพราะที่สำคัญอยู่ที่ความกังวลของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์”

“สิ่งที่จีนควรจะทำนั้นมีตั้งแต่การลดภาษี การรักษาเสถียรภาพตลาดทุน และการสนับสนุนการพัฒนาอย่างเข้มแข็งของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตัวเลขที่เสนอไปนั้น ยังไม่รวมไปถึงเงินที่ต้องใช้ไปกับการก่อสร้างฟื้นฟูเขตประสบภัยพิบัติในเสฉวนอีกราว 500,000 ล้าน – 600,000 ล้านหยวน”

ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของจีดีพีจีนในครึ่งปีแรกของปีนี้ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 10.4 จากร้อยละ 11.9 ของจีดีพีรวมปีที่แล้ว ทำให้เกิดความกังวลว่าการส่งออกที่ซบเซาเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอาจยิ่งกระทบต่อเศรษฐกิจจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น