เอเยนซี - สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน(ซีเอเอเอ็ม) แสดงความกังวลต่ออัตราการเติบโตของตลาดยานยนต์ในประเทศของครึ่งปีหลัง คาดตลอดทั้งปีโตได้แค่ได้แค่ร้อยละ 10
นักวิเคราะห์จากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน เปิดเผย แม้ในครึ่งปีแรกของปี 2008 ตลาดรถยนต์จีนจะอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ทว่าในครึ่งปีหลังสถานการณ์กลับเข้าสู่จุดเปลี่ยน ซึ่งคาดอัตราการเติบโตของรถยนต์ส่วนบุคคลอาจโตไม่ถึงร้อยละ 10 เนื่องจากทางการได้ประกาศปรับภาษีรถยนต์ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันยอดขายของรถยนต์เชิงพาณิชย์ก็อาจจะไม่ราบลื่นนัก ซึ่งก่อนหน้านี้บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่ายอดขายรถยนต์ของปีนี้จะทะลุ 10 ล้านคัน
อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ กล่าวว่าสาเหตุหลักที่กระทบต่อการเติบโตของตลาดยานยนต์จีนนั้นได้แก่ ปัญหาเงินหยวนที่แข็งค่าต่อเงินสหรัฐฯ ,ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ขาดทุนหมุนเวียน รวมถึงมาตรการปล่อยเสรีราคาน้ำมันในประเทศ
นอกจากนี้ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนแสดงถึงความวิตกต่อกรณีที่สหรัฐฯเผชิญกับวิกฤตซับไพร์ม ,ภาวะเงินเฟ้อ ,ภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซาและผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนเดินหน้าควบคุมเศรษฐกิจมหภาค ยิ่งทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในจีนชะลอตัวลง โดยมีท่าทีว่าจะชะลอตัวยาวถึงปีหน้า ซึ่งผลกระทบที่ตามมาได้แก่ รายได้ของผู้บริโภคลดน้อยลง จนอาจทำให้ผู้มีกำลังซื้อบางส่วนยกเลิกหรือเลื่อนการซื้อรถยนต์ออกไป
อย่างไรก็ดี จากความผันผวนของระบบเศรษฐกิจทำให้ทางสมาคมฯ คาดการณ์ว่า ครึ่งปีหลังของปี 2008 อัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ส่อสัญญาณลดลง เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอาจโตไม่ถึงร้อยละ 3 ขณะที่ตัวเลขอัตราการเติบโตตลอดทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 10
ด้านกรมศุลกากรจีนเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลาดรถยนต์ในไตรมาสที่2 ของปี 2008 มีการนำเข้ารถยนต์จำนวน 212,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.2 จากปีก่อนหน้า อัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 18.3 ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรถยนต์ที่มีการนำเข้ามากที่สุดได้แก่ รถยนต์จากญี่ปุ่น ,สหภาพยุโรป,เกาหลีใต้ และ สหรัฐอเมริกา