ซื่อหัวเน็ต – หลังเงินหยวนทำท่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยในที่สุดก็กลับมาแข็งค่าและทำนิวไฮครั้งที่ 44 ไปอยู่ที่ 6.8919 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ในปีนี้เงินหยวนแข็งค่าแล้วถึงเกือบ 6% โดยหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นคาดว่ามาจากเงินร้อนที่ประเมินว่าอยู่ที่กว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราในจีนเช้าวันที่ 17 มิ.ย. เงินหยวนได้แข็งค่าขึ้นไปอีก 109 จุด ทะลุด่าน 6.9 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 6.8919 หยวนต่อดอลลาร์ แข็งขึ้นจากวันที่ 16 ที่อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 6.9028 ต่อดอลลาร์ และเป็นการสร้างสถิตินิวไฮครั้งที่ 44 ในปี 2008 และปิดฉากการอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
นายหวัง ชิ่งผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากมอร์แกน แสตนลีย์วานิชธนกิจชื่อดังได้ระบุว่า “อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนนั้น ถือเป็นความท้าทายในด้านนโยบายเศรษฐกิจของจีน และจะเป็นสิ่งที่สร้างความวิตกกังวลกับเศรษฐกิจจีนในระยะยาว การที่เงินร้อนไหลเข้ามาจำนวนมาก สาเหตุสำคัญก็คือการที่คาดหวังว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“การที่จะทำลายความคาดหวังว่าหยวนจะแข็งค่านั้นมีอยู่ 2 วิธี ก็คือการกลับไปใช้การผูกค่าเงินสกุลเหรินหมินปี้กับดอลลาร์สหรัฐฯ กับอีกวิธีก็คือการขึ้นค่าเงินแบบม้วนเดียวจบ ไม่เช่นนั้นปัจจัยที่จะทำให้คาดหวังว่าเงินหยวนจะขึ้นต่อไปเรื่อยๆจะไม่หมดไป”
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้มองว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนนั้นมีผลต่อการแก้ปัญหาเรื่องการเกินดุลการค้า การแก้ปัญหาเงินเฟ้อในวงจำกัด ดังนั้นเงินหยวนจึงต้องแข็งค่าแบบค่อยเป็นค่อยไป ควบคุมได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตทางการเงินขึ้น
ขณะที่ทางโกลด์แมน แซคส์ได้ประเมินว่า ขณะนี้เรายังไม่เปลี่ยนการคาดการณ์ที่ว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นราว 10% ในปีนี้ ส่วนเงินเฟ้อของจีนในช่วงปลายปีคาดว่าจะชะลอตัวลงจนเหลือ 5%-6% จากความพยายามควบคุมของรัฐบาล
นอกจากนั้น ที่ผ่านมา เงินร้อนที่ไหลเข้าจีนถูกมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการประมาณว่าในปัจจุบัน เงินร้อนที่ไหลเข้ามาในจีนนั้นมีอยู่ราว 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยตั้งแต่ปี 2005-2007 เงินร้อนที่เข้ามาคาดว่าอยู่ในจำนวน 520,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเมื่อพิจารณาจากดัชนีต่างๆในช่วงไตรมาสแรกของปี 2008 คาดว่าเงินร้อนน่าจะถึง 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพียงแต่ตัวเงินร้อนเหล่านี้ได้นับรวมเงินทุนที่ไหลเวียนเข้ามาตามปกติด้วย ดังนั้นคาดว่าเงินร้อนจริงน่าจะน้อยกว่า หรืออยู่ที่ราว 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การทำนิวไฮของเงินหยวนครั้งที่ 44 ในรอบปี ได้ทำให้เงินสกุลเหรินหมินปี้ในปีนี้แข็งค่าขึ้นมาเกือบ 6% แล้ว
