เอเอฟพี--สองคุณยายชาวปักกิ่งนักประท้วงจอมอึดยังท้าทาย แม้โดนคำสั่งเข้ารับการศึกษาใหม่ในค่ายอบรม โทษฐานยื่นขอประท้วงระหว่างโอลิมปิก
สืบเนื่องจาก รายงานข่าวก่อนหน้าว่า หญิงชาวปักกิ่ง 2 คน ถูกส่งตัวเข้าสถานอบรมศึกษาใหม่ ในความผิดยื่นขอประท้วงในโซนประท้วงที่คณะกรรมการโอลิมปิก จัดไว้ให้ สำนักข่าวเอเอฟพีแห่งฝรั่งเศสได้แกะรอยและสัมภาษณ์หญิง 2 คน ซึ่งได้เผยโฉมแก่สาธารณชนในวันศุกร์(22 ส.ค.) ทั้งสองเป็นคุณยาย! ผมขาว ถือไม้เท้าพยุงตัวยืนและเดิน ทั้งสองคือ อู๋ เตี้ยนหยวน วัย 79 ปี และหวัง ซิ่วอิง วัย 77 ปี
สองคุณยายนักประท้วงเล่าว่าเธอประท้วงที่ไม่ได้รับเงินชดเชยหลังจากที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองได้รื้อถอนบ้านของพวกเธอเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พวกเธอเพียงแต่สู้เพื่อสิทธิเท่านั้น
“พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาไม่ให้เราประท้วง และยังได้ตัดสินลงโทษให้เราอยู่ในค่ายแรงงาน 1 ปี ฉันอยากจะบ้าจริงๆ แต่พวกเราไม่กลัวหรอก จะประท้วงต่อไป คุณก็เห็นว่ามันไม่ยุติธรรม คุณเข้าใจไหม?” คุณยายหวังเล่า
คุณยายหวัง และคุณยายอู๋สองสหายคู่หูมาตลอดชีวิต นั่งอยู่ในห้องอพาร์ทเมนท์ซอมซ่อที่ไม่มีไฟฟ้า คุณยายอู๋อาศัยที่นี่หลังจากที่บ้านใจกลางกรุงปักกิ่งของคุณยายถูกรื้อทิ้งไป เพื่อเปิดทางให้โครงการพัฒนา สำหรับบ้านของคุณยายหวัง ก็เป็นห้องซอมซ่อสภาพคล้ายกับห้องอพาร์ทเมนท์ของคุณยายอู๋ ห่างกันเพียงเดินลัดซอยแคบๆบริเวณชานเมืองปักกิ่ง
ทั้งสองเล่าว่าพวกเธอได้ยื่นเรื่องขอประท้วงในโซนที่ทางการจัดไว้ให้สำหรับการประท้วงระหว่างโอลิมปิก เกมส์ ถึง 5 ครั้ง “เราจะประท้วงต่อไป” คุณยายหวังลั่น
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้จัดโซนสำหรับการประท้วง 3 แห่งตามสวนสาธารณะของนครปักกิ่ง แต่กระทั่งในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ในปักกิ่งเองยอมรับว่า มีการยื่นขอประท้วงมากกว่า 70 ราย แต่ก็ไม่มีใครได้รับอนุญาต
เมื่อได้รับข่าวทางการจัดโซนประท้วงให้ประชาชน สองคุณยายนักประท้วงก็ดีใจหาย แต่ความหวังก็สลายไปในชั่วเวลาไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิเสธเรื่องขอประท้วงของพวกเธอ แถมยังได้ส่งเข้าสถานศึกษาอบรมใหม่ 1 ปีโทษฐานก่อกวนระเบียบสาธารณะ สถานศึกษาอบรมใหม่นี้ เป็นที่จองจำผู้ที่มีความผิดไม่แรงร้ายถึงขั้นขังคุกจริงๆ โดยเจ้าหน้าที่จะอบรม “นักโทษ”ผ่านการทำงาน ดังนั้น จึงมักเรียกมันว่า “ค่ายแรงงาน”
ผู้สื่อเอเอฟพีบอกว่าพวกเขาได้เห็นคำสั่งส่งคุณยายหวังและคุณยายอู๋เข้ารับการศึกษาอบรมใหม่แล้ว ในนั้นระบุผ่อนปรนให้คุณยายทั้งสองรับโทษอยู่ในบ้าน ให้เก็บตัวสงบเสงี่ยมไว้ แต่หากซ่าทำเรื่องวุ่นวายอีก ก็จะถูกตัวเข้า “ค่ายแรงงาน” จริงๆ
“เราก่ออาชญากรรมอะไร” คุณยายหวังเล่า พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ “เราไม่เคยทำความผิดอะไรเลย ตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ เราต่างก็แก่มากแล้ว ไม่มีแม้เสียงจะพูดออกมาอย่างชัดๆดังๆ เราจะไปก่ออาชญากรรมอะไรได้?”
ในเอกสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ระบุว่า คุณยายทั้งสองเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ ทั้งสองยังต้องใช้ไม้เท้ายัน ทรงตัวขึ้นยืน และเดิน ดูไม่มีวี่แววแม้แต่น้อยนิด ที่จะมีกำลังมาท้าทายอำนาจรัฐอันทรงพลังอย่างจีนเลย”
คุณยายทั้งสองยังเป็นหนึ่งในกลุ่มครอบครัวปักกิ่งนับแสนที่ถูกรื้อถอนบ้านเรือน และสั่งให้ย้ายที่อยู่ที่อื่นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากทางการต้องการพัฒนาเปลี่ยนโฉมเมืองใหม่ให้ทันสมัยสง่างาม ซึ่งหลายๆโครงการเหล่านี้ ผุดขึ้นมารับใช้โอลิมปิก เกมส์
ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลนครปักกิ่งยืนยันว่ากลุ่มที่ถูกรื้อถอนบ้านและย้ายไปที่ใหม่ จะได้รัยเงินชดเชยอย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่คุณยายหวังกับคุณยายอู๋บอกว่า พวกเธอไม่ได้รับอะไรเลย
มันเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคย ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศจีน
คุณยายทั้งสองพูดติดตลกว่า พวกเธอถูกติดฉลากเป็น “ศัตรูต่อสาธารณะ” เพื่อนบ้านของพวกเธอก็ได้รับคำสั่งให้เป็นสปาย จับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเธอ
แต่คุณยายก็ยืนกรานไม่กลัวคำขู่ คุณยายหวังยังลั่นว่าจะไม่ยอมไปเข้าคุกแรงงาน
“ฉันไม่ไป ฉันไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะทำอะไรฉันได้?” หวังลั่นเสียงเด็ด.
สืบเนื่องจาก รายงานข่าวก่อนหน้าว่า หญิงชาวปักกิ่ง 2 คน ถูกส่งตัวเข้าสถานอบรมศึกษาใหม่ ในความผิดยื่นขอประท้วงในโซนประท้วงที่คณะกรรมการโอลิมปิก จัดไว้ให้ สำนักข่าวเอเอฟพีแห่งฝรั่งเศสได้แกะรอยและสัมภาษณ์หญิง 2 คน ซึ่งได้เผยโฉมแก่สาธารณชนในวันศุกร์(22 ส.ค.) ทั้งสองเป็นคุณยาย! ผมขาว ถือไม้เท้าพยุงตัวยืนและเดิน ทั้งสองคือ อู๋ เตี้ยนหยวน วัย 79 ปี และหวัง ซิ่วอิง วัย 77 ปี
สองคุณยายนักประท้วงเล่าว่าเธอประท้วงที่ไม่ได้รับเงินชดเชยหลังจากที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองได้รื้อถอนบ้านของพวกเธอเมื่อ 7 ปีที่แล้ว พวกเธอเพียงแต่สู้เพื่อสิทธิเท่านั้น
“พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาไม่ให้เราประท้วง และยังได้ตัดสินลงโทษให้เราอยู่ในค่ายแรงงาน 1 ปี ฉันอยากจะบ้าจริงๆ แต่พวกเราไม่กลัวหรอก จะประท้วงต่อไป คุณก็เห็นว่ามันไม่ยุติธรรม คุณเข้าใจไหม?” คุณยายหวังเล่า
คุณยายหวัง และคุณยายอู๋สองสหายคู่หูมาตลอดชีวิต นั่งอยู่ในห้องอพาร์ทเมนท์ซอมซ่อที่ไม่มีไฟฟ้า คุณยายอู๋อาศัยที่นี่หลังจากที่บ้านใจกลางกรุงปักกิ่งของคุณยายถูกรื้อทิ้งไป เพื่อเปิดทางให้โครงการพัฒนา สำหรับบ้านของคุณยายหวัง ก็เป็นห้องซอมซ่อสภาพคล้ายกับห้องอพาร์ทเมนท์ของคุณยายอู๋ ห่างกันเพียงเดินลัดซอยแคบๆบริเวณชานเมืองปักกิ่ง
ทั้งสองเล่าว่าพวกเธอได้ยื่นเรื่องขอประท้วงในโซนที่ทางการจัดไว้ให้สำหรับการประท้วงระหว่างโอลิมปิก เกมส์ ถึง 5 ครั้ง “เราจะประท้วงต่อไป” คุณยายหวังลั่น
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้จัดโซนสำหรับการประท้วง 3 แห่งตามสวนสาธารณะของนครปักกิ่ง แต่กระทั่งในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ในปักกิ่งเองยอมรับว่า มีการยื่นขอประท้วงมากกว่า 70 ราย แต่ก็ไม่มีใครได้รับอนุญาต
เมื่อได้รับข่าวทางการจัดโซนประท้วงให้ประชาชน สองคุณยายนักประท้วงก็ดีใจหาย แต่ความหวังก็สลายไปในชั่วเวลาไม่นาน เมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิเสธเรื่องขอประท้วงของพวกเธอ แถมยังได้ส่งเข้าสถานศึกษาอบรมใหม่ 1 ปีโทษฐานก่อกวนระเบียบสาธารณะ สถานศึกษาอบรมใหม่นี้ เป็นที่จองจำผู้ที่มีความผิดไม่แรงร้ายถึงขั้นขังคุกจริงๆ โดยเจ้าหน้าที่จะอบรม “นักโทษ”ผ่านการทำงาน ดังนั้น จึงมักเรียกมันว่า “ค่ายแรงงาน”
ผู้สื่อเอเอฟพีบอกว่าพวกเขาได้เห็นคำสั่งส่งคุณยายหวังและคุณยายอู๋เข้ารับการศึกษาอบรมใหม่แล้ว ในนั้นระบุผ่อนปรนให้คุณยายทั้งสองรับโทษอยู่ในบ้าน ให้เก็บตัวสงบเสงี่ยมไว้ แต่หากซ่าทำเรื่องวุ่นวายอีก ก็จะถูกตัวเข้า “ค่ายแรงงาน” จริงๆ
“เราก่ออาชญากรรมอะไร” คุณยายหวังเล่า พร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ “เราไม่เคยทำความผิดอะไรเลย ตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ เราต่างก็แก่มากแล้ว ไม่มีแม้เสียงจะพูดออกมาอย่างชัดๆดังๆ เราจะไปก่ออาชญากรรมอะไรได้?”
ในเอกสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ระบุว่า คุณยายทั้งสองเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ ทั้งสองยังต้องใช้ไม้เท้ายัน ทรงตัวขึ้นยืน และเดิน ดูไม่มีวี่แววแม้แต่น้อยนิด ที่จะมีกำลังมาท้าทายอำนาจรัฐอันทรงพลังอย่างจีนเลย”
คุณยายทั้งสองยังเป็นหนึ่งในกลุ่มครอบครัวปักกิ่งนับแสนที่ถูกรื้อถอนบ้านเรือน และสั่งให้ย้ายที่อยู่ที่อื่นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากทางการต้องการพัฒนาเปลี่ยนโฉมเมืองใหม่ให้ทันสมัยสง่างาม ซึ่งหลายๆโครงการเหล่านี้ ผุดขึ้นมารับใช้โอลิมปิก เกมส์
ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลนครปักกิ่งยืนยันว่ากลุ่มที่ถูกรื้อถอนบ้านและย้ายไปที่ใหม่ จะได้รัยเงินชดเชยอย่างสมน้ำสมเนื้อ แต่คุณยายหวังกับคุณยายอู๋บอกว่า พวกเธอไม่ได้รับอะไรเลย
มันเป็นเรื่องราวที่คุ้นเคย ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศจีน
คุณยายทั้งสองพูดติดตลกว่า พวกเธอถูกติดฉลากเป็น “ศัตรูต่อสาธารณะ” เพื่อนบ้านของพวกเธอก็ได้รับคำสั่งให้เป็นสปาย จับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกเธอ
แต่คุณยายก็ยืนกรานไม่กลัวคำขู่ คุณยายหวังยังลั่นว่าจะไม่ยอมไปเข้าคุกแรงงาน
“ฉันไม่ไป ฉันไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจะทำอะไรฉันได้?” หวังลั่นเสียงเด็ด.