เอเอฟพี - ฮว่า กั๋วเฟิงวัย 87 ปี ทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งประธานพรรคคอมมิวนิสต์จากผู้นำเหมา เจ๋อตง ถึงแก่อสัญกรรมในกรุงปักกิ่งเมื่อบ่ายวานนี้ (20 ส.ค.)
สำนักข่าวซินหัวและสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง(ซีซีทีวี)รายงานว่า ฮว่าซึ่งจัดเป็นหนึ่งในสหายรุ่นเก่าแห่งการปฏิวัติคอมมิวนิสต์กลุ่มสุดท้าย เสียชีวิตเนื่องจากอาการเจ็บป่วยเมื่อเวลา 12.50 ตามเวลาท้องถิ่น แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด
หลังจากที่ประธานเหมาอสัญกรรมในเดือนกันยายนปี ค.ศ. 1976 ฮว่าก็ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้อำนาจสูงสุดคือประธานพรรคคอมมิวนิสต์แทน ทั้งครองอำนาจนายใหญ่รัฐบาล และเหล่าทัพ ได้นำการเคลื่อนไหวครั้งพลิกประวัติศาสตร์ประเทศจีนคือ การโค่นล้ม “แก็งสี่คน” ที่มีภรรยาหม่ายนางเจียง ชิงของประธานเหมารวมอยู่ด้วย
แต่ในชั่ว 2-3 ปีต่อมา ราวปี 1978 เติ้ง เสี่ยวผิงหัวหอกนำนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ได้ทะยานสู่ตำแหน่งสำคัญๆของพรรคคอมมิวนิสต์ ขณะที่อำนาจของฮว่าผู้ยึดมั่นแนวทางเหมาอิสต์ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ตกลงเรื่อยๆ
กระทั่งในปี 1980 ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติก็ลงมติให้ฮว่า ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจ้าว จื่อหยางขึ้นนั่งเก้าอี้นี้แทน ในปีถัดมา 1981 หู เย่าปังก็ทะยานขึ้นมานั่งตำแหน่งประธานพรรคฯแทนฮว่า ซึ่งเป็นการถ่ายเลือด ดึงผู้นำรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิดที่สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในพรรคและรัฐบาล
ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 12 ฮว่าหมดสิ้นอำนาจใหญ่บนเวทีการเมือง พร้อมกับการสูญเสียเก้าอี้ในคณะกรรมการกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร แต่ก็ยังคงเป็นสมาชิกในคณะกรรมการกลางพรรคฯ หลังจากนั้น เขาไม่ค่อยปรากฏตัวแก่สาธารณะ และไม่เป็นที่รู้ชัดเจนว่าเขาคิดอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมหน้าจีนในหลายสิบปีต่อมา.
