เอเจนซี-ศึกจู่โจมของกลุ่มที่ทางการจีนชี้เป็นลัทธิก่อการร้ายในซินเจียง เผด็จศึกครั้ง 3 ในวันอังคาร(12 ส.ค.) โดยกลุ่มจู่โจมแทงเจ้าหน้าที่ 3 คนในคาชการ์ เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ 1 คน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กลุ่มจู่โจมได้กระโดดลงจากรถที่ทำทีแล่นผ่านด่านตรวจห่างจากเมืองคาชการ์ 30 กม. และได้พุ่งเข้าไปกระหน่ำแทงเจ้าหน้าที่ จุดเกิดเหตุครั้งนี้ เป็นจุดเดียวกับที่คนร้ายได้จู่โจมระเบิดใส่สถานีตำรวจ และแทงตำรวจเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ปลิดชีวิตตำรวจ 16 คน บาดเจ็บ 16 คน
เหตุการณ์แทงตำรวจในวันอังคาร ยังเกิดไล่หลังเหตุการณ์คนร้ายโจมตีระเบิดใส่สถานีตำรวจ หน่วยงานรัฐ และซุปเปอร์มาร์เก็ตในคู่เชอเมืองอันดับสองของซินเจียงเพียง 2 วัน ขณะนี้ตำรวจกำลังไล่ล่ากลุ่มเผด็จศึกโจมตีในคู่เชอ ซึ่งตำรวจระบุว่ามี 15 คน
สำหรับศึกระเบิดในคู่เชอมีเหยื่อสังเวยชีวิตไป 11 คน ได้แก่คนร้าย 10 คน ซึ่งเสียชีวิตจากกระสุนปืนตำรวจ 8 คน และอีก 2 คน ได้จู่โจมระเบิดใส่ตัวเอง ส่วนเหยื่ออีกคนเป็นยามรักษาความปลอดภัยที่เสียชีวิตจากระเบิดของคนร้าย
ในเย็นวันจันทร์ (11 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ในคู่เชอ ได้เผยความคืบหน้าการสืบสวน ชี้กลุ่มจู่โจมในคู่เชอเป็นพวกลัทธิก่อการร้าย ที่มาจากคู่เชอและพื้นที่อื่นๆ นอกจากนี้ ในกลุ่มมือระเบิด ยังมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 2 คน
“กลุ่มก่อการร้าย 2 คนเป็นผู้หญิง คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ คนหนึ่งถูกสังหาร” Mu Tielifuhasimu เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นเผยกับผู้สื่อข่าวในคู่เชอ
ทางการจีนบอกว่ากลุ่มจู่โจมศึกทั้งสามครั้งนี้ เป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธ ที่เคลื่อนไหวอิสรภาพ “เตอร์กีสถาน ตะวันออก” มาตุภูมิของมุสลิมอุยกูร์แห่งชินเจียง ที่ปัจจุบันเป็นเขตปกครองตัวเองมุสลิมอุยกูร์ของจีน โดยมีหัวหอกคือกลุ่มอิสลามเตอร์กีสถานตะวันออก หรือ ETIM ซึ่งทั้งจีน สหรัฐฯ และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ขึ้นบัญชีดำ ETIM เป็นลัทธิก่อการร้าย จีนยังชี้ว่า ETIM มีแผนโจมตีโอลิมปิก เกมส์
ชาวมุสลิมอุยกูร์ เดิมเป็นประชากรส่วนใหญ่ของดินแดนซินเจียง ขณะนี้ เหลือ 8.3 ล้านคน ไม่ถึงครึ่งของประชากรทั้งหมด 20 ล้านคนในซินเจียง รายงานข่าวทั่วไปชี้ว่า ชาวอุยกูร์ไม่พอใจที่จีนได้นำชาวฮั่น (จีน) และธุรกิจจีนเข้าในซินเจียง ความไม่พอใจนี้ ทบทวีมากขึ้น ระหว่างจีนกวาดล้างกลุ่มที่ต้องสงสัยแบ่งแยกดินแดน โดยนำกำลังเข้าโจมตีสังหาร และจับกุม ประหารชีวิต
ขนรถหุ้มเกราะอารักขาโอลิมปิก ปักกิ่ง
วันเดียวกัน ที่กรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานที่แข่งขันกีฬาและจัดกิจกรรมโอลิมปิก โดยเฉพาะได้ทวีความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้าหมู่บ้านสื่อโอลิมปิก มีการตรวจค้นผู้สื่อข่าวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้นำรถสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะ (APCหรือรสพ.) มาจอดหน้าศูนย์สื่อโอลิมปิก
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังการฆาตกรรมชาวอเมริกันทอดด์ บาชแมน ซึ่งเป็นพ่อตาของโค้ชวอลเลย์บอลอเมริกัน อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในซินเจียง.