เอเจนซี่-จีนแถลงในวันอังคาร(5 ส.ค.) รับประกันความปลอดภัยโอลิมปิก พร้อมเพิ่มระดับคุมเข้มรักษาความปลอดภัยในซินเจียง หลังจากเกิดเหตุการณ์จู่โจมสังหารตำรวจในเมืองคาชการ์ของเขตปกครองตัวเองของชนส่วนน้อยมุสลิมอุยกูร์แห่งซินเจียง
เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกุมตัวผู้ร้าย 2 คน เผยว่าพบเอกสารชักชวนเข้าร่วมสงครามศักดิ์สิทธิ์ในตัวคนร้าย พร้อมเผยว่าพวกเขาอาจเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขึ้นบัญชีดำเป็นกลุ่มลัทธิก่อการร้ายคือ ขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามิค เตอร์กีสถานตะวันออก หรือ ETIM
คนร้าย 2 คน ซึ่งมีอายุ 28 ปี และ 33 ปี ได้ขับรถบรรทุกพุ่งเข้ามายังหน่วยตำรวจพลเรือนในคาชการ์เมื่อเช้าวันจันทร์(4 ส.ค.) เวลา 7.55 น. ขณะนั้น มีนายตำรวจ 70 คนกำลังวิ่งออกกำลัง ทั้งสองกระโจนลงจากรถขว้างระเบิดใส่ พุ่งเข้าไปใช้มีดแทงเหยื่อ จนมีตำรวจเสียชีวิต 16 คน บาดเจ็บ 16 คน
ในวันอังคาร(5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ซือ ต้ากังเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งคาชการ์ เผยว่าในปีนี้ตำรวจได้จับกุมกลุ่มก่อการร้ายจากต่างแดน 18 คนในซินเจียง พร้อมชี้ภัยคุกคามจากทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวภายในประเทศและต่างแดน ซึ่งต้องการสถาปนารัฐเอกราชมุสลิมในซินเจียง อย่างไรก็ตาม ซือไม่ได้ระบุเจาะจงว่ากลุ่มที่ถูกจับกุมตัวไปนี้ เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการอะไร และเป็นสัญชาติไหน แต่ได้ชี้ว่า กองกำลัง “เตอร์กีสถาน ตะวันออก” พยายามก่อความรุนแรงเพื่อทำลายล้างโอลิมปิก ที่จะเริ่มในวันศุกร์นี้
ขณะเดียวกัน คณะผู้จัดงานโอลิมปิก ปักกิ่ง ที่กำลังเปิดม่านใน 3 วันนี้ 8 สิงหาคม ได้รับประกันความปลอดภัยของนักกีฬา 10,000 คน และชาวต่างชาติ 500,000 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมระหว่างโอลิมปิก เกมส์ระหว่างวันที่ 8-24 สิงหาคม
ปักกิ่งได้ระดมกำลังปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาทั่วกรุงปักกิ่ง และทั่วประเทศ อย่างที่เจ้าหน้าที่ในวงการกีฬาผู้หนึ่งบอกว่าไม่เคยเห็นกองกำลังรักษาความปลอดภัยใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่มอสโค เกมส์ ปี 1980
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่เพิ่มจุดตรวจค้นตามถนน และได้ระดมกองกำลังเพิ่มเติม เฝ้าระวังความปลอดภัยตามที่ทำการของรัฐบาล โรงเรียน และโรงพยาบาล
ขณะที่ชาวมุสลิมอุยกูร์ต่างโอดครวญถึงปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มที่ต้องสงสัยในดินแดนอย่างดุเดือดในหลายเดือนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสงสัยว่าผู้ร้ายทั้งสองเชื่อมโยงกับกลุ่ม ETIM โดยอ้างว่าระเบิดที่ผู้ร้ายใช้นั้น คล้ายคลึงกับที่พบในการจู่โจมของ ETIM เมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ซินเจียงมีชาวอุยกูร์ 8.3 ล้านคน พูดภาษาเตอร์กิค ดินแดนส่วนหนึ่งของซิน เจียงประกาศเป็นรัฐเอกราช ชื่อว่า เตอร์กีสถานตะวันออกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และปกครองตนเองอย่างมีอิสระด้วยความสุขอยู่ชั่วระยะสั้น ๆ กระทั่งจีนได้เข้ามาควบคุมอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2492.
ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวในซินเจียง
21 พฤษภาคม 1996 - อาหรง ฮั่นอาจี๋รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียงและ ลูกชายถูกลอบสังหาร ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน
25 กุมภาพันธ์ 1997 - ระเบิดรถเมล์ 3 คัน ในเมืองอูหลู่มู่ฉี เสียชีวิต 39 บาดเจ็บ 68 คน
30 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 1998 - วางระเบิด 23 คดี บาดเจ็บ 4 คน เสียชีวิต 1 คน สัตว์เลี้ยงล้มตายและได้รับบาดเจ็บกว่า 1,000 ตัว
27 มกราคม 2008 - ตำรวจนำกำลังจู่โจมและวิสามัญกลุ่มเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนในเมืองอู่หลู่มู่ฉี 2 คน จับกุม 15 คน
7 มีนาคม 2008 - เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหญิงมุสลิมชาวอุยกูร์บนเครื่องบินของสายการบินไชน่า เซาเทิร์นเที่ยวบินจากเมืองอู่หลู่มู่ฉี ไปยังกรุงปักกิ่ง หลังพบวัตถุระเบิดที่ทำขึ้นเองในเครื่องบิน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
26 กรกฏาคม 2008 -วินาศกรรมระเบิดรถเมล์ที่คุนหมิง มณฑลยูนนาน และในเซี่ยงไฮ้ โดยมีรายงานว่ากลุ่ม TIP ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ETIM เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ภาพกราฟิกเหตุการณ์ คนร้ายชาวมุสลิม 2 คน ขับรถบรรทุกเข้ามาจู่โจมหน่วยตำรวจพลเรือน รถบรรทุกพุ่งชนเสาไฟฟ้า(1) จากนั้น คนร้ายก็กระโจนลงมาขว้างระเบิดใส่กลุ่มตำรวจ 70 นายที่กำลังวิ่งออกกำลัง และใช้มีดแทง(2) สังหารตำรวจไป 16 คน บาดเจ็บ 16 คน
ภาพล่าง แผนที่ตั้งของคาชการ์ หรือที่จีนเรียกเมืองคาสือ (จุดไฟแดง) ในซินเจียงซึ่งมีพื้นที่ชายแดนติดกับทาจิคิสถาน, อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน และติดต่อกับเขตปกครองตัวเองทิเบตที่ด้านใต้