มะกันเลือกนักวิ่งดาร์ฟูร์ถือธงในพิธีเปิดโอลิมปิก

เอเอฟพี-ทีมมะกันเลือกอดีตผู้อพยพจากแดนสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ดาร์ฟูร์ ถือธงในพิธีเปิดโอลิมปิก เล็งจุดประกายความสนใจนโยบายต่างประเทศจีนสู่แอฟริกาในพิธีเปิดโอลิมปิก เกมส์วันศุกร์นี้

ทีมกัปตันสหรัฐอเมริกาได้ประชุมกันที่โอลิมปิก วิลเลจที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ(6 ส.ค.) และได้โหวตให้โลเปซ ลอมมิง (Lopez Loming) นักวิ่งวัย 23 ปี เป็นผู้ถือธงชาติสหรัฐฯ

ลอมมิงเป็นสมาชิกของทีม ดาร์ฟูร์ กลุ่มนักกีฬาโลกที่เคลื่อนไหวปลุกกระแสตื่นตัวต่อความขัดแย้งในเมืองดาร์ฟูร์ ประเทศซูดาน เขาประกาศในเดือนกรกฎาคมว่า หากได้ยืนบนแท่นโอลิมปิก เขาจะระลึกถึงเด็กๆที่ดาร์ฟูร์ ภาวนาให้พวกเขามีชีวิตที่ปลอดภัย และได้กลับไปอยู่กับครอบครัว

“สิ่งที่ผมวิตกมากที่สุด คือเด็กๆที่ต้องสังเวยชีวิตแก่ความขัดแย้งที่ไม่จบสิ้นในดาร์ฟูร์ พวกเขาไม่อาจมีความฝันจะเป็นนักกีฬาหรือเป็นหมอ ผมอยากอวยพรให้เด็กๆเหล่านั้น บรรลุความฝัน”

การคัดเลือกนี้ ยังเกิดขึ้นหลังวันที่จีนปฏิเสธวีซ่าเข้าประเทศแก่โจอี้ ชีคผู้ร่วมก่อตั้งทีมดาร์ฟูร์

“ผมมีความสุขมาก มีความสุขอย่างชนิดไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาบรรยาย” ลอมมิงกล่าวหลังจากที่ได้รับเลือกให้ถือธง

ลอมมิงถือกำเนิดในซูดาน ผ่านชีวิตอันรันทดโลดโผน ถูกกลุ่มติดอาวุธจานจาวีดลักพาตัวเมื่ออายุ 6 ขวบ หนีรอดจากอุ้งมือของวายร้ายได้ วิ่งหัวซุกหัวซุน หลบพวกทหาร และสัตว์ร้ายในป่า 3 วัน กระทั่งมาถึงเคนยา และถูกส่งตัวไปยังค่ายผู้อพยพ ใช้ชีวิตอยู่ในค่าย นับ 10 ปี

ในปี 2001 ลอมมิงได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องราวของตน และเป็นหนึ่งในเด็กๆ 3,800 คน ที่ได้รับเลือกไปอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกัน กระทั่งได้สัญชาติอเมริกันในปี 2007 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เขาได้กลับไปอยู่กับครอบครัวที่พลัดพรากกันนานถึง 16 ปี และยังได้ไปที่หลุมฝังศพ ซึ่งครอบครัวจัดทำไว้เพราะคิดว่าเขาตายไปแล้ว

ทั้งนี้ ความขัดแย้งในดาร์ฟูร์ ภูมิภาคทางตะวันตกของซูดาน เริ่มมีขึ้นในปี 2003 เมื่อกบฏชาวแอฟริกัน 2 กลุ่มลุกฮือจับอาวุธขึ้นต่อสู้รัฐบาล โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลเข้าข้างชาวอาหรับกดขี่ชาวแอฟริกัน รัฐบาลจึงกวาดล้างและหนุนกองกำลังอาหรับติดอาวุธ นำโดยกองโจร “จานจาวีด” เข้าไปเข่นฆ่า ข่มขืน กระทำรุนแรงในรูปแบบต่างๆต่อชาวแอฟริกันอย่างป่าเถื่อน สหประชาชาติ(ยูเอ็น) ชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตในสงครามที่ดาร์ฟูร์ถึง 300,000 คน ประชาชนต้องระเห็จออกจากบ้าน 2.2 ล้านคน ฝ่ายรัฐบาลซูดานบอก มีผู้เสียชีวิตราว 10,000 คน

และเป็นที่เชื่อกันว่าจีนมีส่วนช่วยโหมกระพือไฟสงครามแห่งนี้ โดยเป็นผู้ขายอาวุธให้กับทั้งรัฐและกลุ่มกองโจร เพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านทรัพยากรพลังงานและน้ำมันในซูดาน.