xs
xsm
sm
md
lg

38 แหล่งมรดกโลกในจีน ชีวิตหนึ่งต้องไปเยือน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมืองเก่าลี่เจียง
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ - เปิด 38 แหล่งมรดกโลกของจีนทั้ง 3 กลุ่ม ทั้งจุดเด่นทางวัฒนธรรม มีความสวยงามตามธรรมชาติ และแหล่งผสมผสาน ซึ่งหลายแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น จิ่วไจ้โกว หลายแห่งมีความสำคัญทางศาสนา ขณะเดียวกันพบอาณาจักรโกกูรยอของเกาหลีรวมอยู่ด้วย

หลังจากคนไทยต้องปวดใจกับการประกาศขึ้นทะเบียน “ปราสาทพระวิหาร” ให้เป็นของประเทศกัมพูชาโดยไร้เงาประเทศเจ้าบ้านอย่างไทยเป็นผู้จัดการมรดกร่วมแล้ว ในช่วงการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโก้ สหประชาชาติ เมื่อวันที่ 2-10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่นครควิเลก ประเทศแคนาดา ซึ่งปีนี้ก็ยังเดินหน้าประกาศให้สถานที่อีกหลายแห่งในโลกเป็นมรดกโลก ที่น่าจับตาคือปีนี้จีนได้รับการประกาศสถานที่สำคัญๆ ให้เป็นมรดกโลกอีก 3 แห่ง ซึ่งทำให้ปัจจุบันจีนมีสถานที่มรดกโลกแล้วมากถึง 38 แห่ง

3 มรดกโลกของจีนปี 51

โดยสถานที่ 3 แห่งที่ได้รับการจดทะเบียนมรดกโลกของจีนปีนี้ ได้แก่ ภูเขาซานชิงซาน มณฑล เจียงซี,อาคารโบราณในมณฑลฮกเกี้ยน และย่านที่อยู่อาศัยถู่โหลว มณฑลฝูเจี้ยน

ภูเขาซานชิงซาน มณฑลเจียงซี อยู่ในนครเต๋อชิง ทางทิศตะวันออกของมณฑลเจียงซี มีรอยต่อกับอำเภอยี่ซาน โดยบนภูเขาซานชิงซาน จะมียอดเขา 3 ยอดเขา คือ ยอดเขายี่จิง,ยอดเขายี่ซีและยอดเขายี่หัว เรียงลำดับกัน

จุดเด่นของภูเขาซานชิงซานอยู่ที่ความสำคัญทางศาสนา โดยภูเขาซานชิงซานเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาเต๋า มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 1,600 ปี ซึ่งความที่ภูเขาซานชิงซานเป็นสถานที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากในด้านธรรมชาติ ทำให้ภูเขาซานชิงซานได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลจีน ให้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์หมีแพนด้าแห่งที่ 2 ของจีน หลังจากเขตเพาะพันธุ์หมีแพนด้าในเขตอั้วหลง มณฑลเสฉวนได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับภูเขาซานชิงซานเหมาะกับการเป็นศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าแห่งที่ 2 ของจีนนั้น เพราะว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน โดยทางการจีนได้ดูจากที่ภูเขาซานชิงซาน มีอัตราการครอบคลุมของป่าไม้สูงถึงร้อยละ 89.1% อุณหภูมิและความชื้นของธรรมชาติก็เหมาะที่จะเป็นสถานที่เติบโตของหมีแพนด้า และสิ่งสำคัญที่สุดในบริเวณเขาซานชิ่งซานอุดมไปด้วยใบไผ่ ซึ่งเป็นอาหารหลักของหมีแพนด้าด้วย

อาคารดินดานฮกเกี้ยน หรือ อาคารดินดานจีนแคะ เป็นอาคารโบราณนับร้อยปีในมณฑลฮกเกี้ยน ซึ่งตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลฮกเกี้ยน มณฑลเจียงซี และในเขตรอยต่อกับมณฑลกวางตุ้ง

บ้านดินถู่โหลว ตั้งอยู่ที่อำเภอหย่งติ้ง มณฑลฝูเจี้ยน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกครั้งล่าสุดนี้เช่นกัน โดยคณะกรรมการลงความเห็นว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาของชาวจีนแคะ หรือ เค้อเจีย ที่สืบทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น

บ้านดินถู่โหลวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมีทั้งสิ้น 46 หลัง ลักษณะโครงสร้างของถู่โหลวภายในเป็นไม้ไผ่สาน พอกทับด้วยดินเหนียว ลักษณะทั่วไปของบ้านดินจะมีรูปทรงเลขาคณิตที่แปลกตาทั้งทรงกลม และสี่เหลี่ยม บริเวณตรงกลางเปิดโล่งมีโครงสร้างอาคารที่สลับซับซ้อน มีจำนวนห้องราว 100-200 ห้อง มีห้องครัวและห้องอาหารอยู่ชั้นแรก ชั้นที่สองเป็นเก็บพืชผลทางการเกษตรและห้องรับแขกที่มีมากถึง 35 ห้อง ชั้นที่สามและสี่เป็นห้องนอน นอกจากนั้นยังมีห้องสำหรับจัดพิธีสำคัญๆ ของบ้านอีก เช่น งานแต่งงาน งานมงคลต่างๆด้วย

บ้านดินถู่โหลวนี้กระจายอยู่ในเขตภูเขาด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของมณฑลฝูเจี้ยน ซึ่งได้มีการสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งใต้ มีการรักษาและสืบทอดจนถึงยุคปัจจุบัน มีอายุกว่า 800 ปี

เปิด 38 แหล่งมรดกโลกจีน

เดชธิชัย เลียนทอง เจ้าของบริษัทสตาร์ดัสท์ทราเวล จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในจีน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในมณฑลเสฉวน กล่าวว่า เมื่อนับถึงปัจจุบันจีนมีสถานที่สำคัญที่เป็นเมืองมรดกโลกถึง 38 แห่ง โดยคณะกรรมการมรดกโลกได้ แบ่งสถานที่ต่างๆ เป็นเมืองมรดกโลก 3 กลุ่มด้วยกันได้แก่กลุ่ม วัฒนธรรม ,กลุ่มธรรมชาติ และกลุ่มผสมผสาน

มรดกโลกในกลุ่มที่มีจุดเด่นด้านวัฒนธรรมของจีน นับว่ามีมากที่สุดในทุกกลุ่มคือมีถึง 26 แห่ง ได้แก่

1.ภูเขาบู๊ตึ้ง Ancient Building Complex in the Wudang Mountains (1994) มณฑลหูเป่ย เป็นภูเขาที่มีความสวยงามมาก รวมถึงมีความสำคัญด้านศาสนาลัทธิเต๋า

2.เมืองโบราณผิงเหยา Ancient City of Ping Yao (1997) มณฑลซานซี ซึ่งทั้งเมืองเป็นบ้านของคนจีนยุคเก่า ซึ่งไม่ถูกทุบทำลายไป ปัจจุบันหนังจีนกำลังภายในมักจะมาถ่ายทำที่เมืองนี้ โดยเฉพาะฉากการเดินผ่านตลาดแบบเก่า

3.เมืองเก่าของอันฮุย Ancient Villages in Southern Anhui – Xidi and Hongcun (2000) ได้แก่เมืองหงชุน ซึ่งมีความเก่าแก่มาก สามารถรักษาวัฒนธรรมโบราณ ทั้งถนน บ้านริมทาง และการค้าขายแบบโบราณ

4.อาณาจักรโกกูรยอของเกาหลี Capital Cities and Tombs of the Ancient Koguryo Kingdom (2004) โดยตั้งอยู่ระหว่างบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือกับมณฑลซานตง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของอาณาจักรโบราณของบรรพบุรุษเกาหลี ที่ภายหลังราชวงศ์ถังของจีนได้เข้ามายึด และขึ้นทะเบียนในนามของประเทศจีนในที่สุด ซึ่งระหว่างนั้นได้กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างเกาหลีกับจีน เนื่องจากเกาหลีถือว่าเป็นเจ้าของทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ทางจีนถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของจีน ล่าสุด 2 ประเทศมีข้อตกลงที่จะศึกษาด้านประวัติศาสตร์ร่วมกัน

5.สวนของซูโจว Classical Gardens of Suzhou (1997) เป็นสวนหย่อมที่มีความสวยงามมาก และเมืองซูโจวนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองเวนิชตะวันออก

6.หินต้าซู Dazu Rock Carvings (1999) ในเมืองต้าซู มหานครฉงชิ่ง ซึ่งมีหินแกะสลักที่สวยงามมากมายที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 9-13 มีความโดดเด่นที่ความงดงามที่แสดงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งศาสนาที่ผสมผสานทั้งพุทธ เต๋า และขงจื่อ รวมทั้งแสดงถึงความเชื่อต่างๆของคนจีนในยุคนั้นด้วย

7.บ้านดินถู่โหลว Fujian Tulou (2008) ซึ่งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกในปีนี้

8. ถ้ำมาเก๊า Historic Centre of Macao (2005) ซึ่งเป็นถ้ำซึ่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญคืออยู่ในเส้นทางสายไหมซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่ดีที่สุดในอดีต ซึ่งภายในถ้ำมีภาพจิตกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราวทางพุทธศาสนา ซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี

9.พระราชวังโพธิธาราของทิเบต Historic Ensemble of the Potala Palace, Lhasa (1994) ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ในยุคพุทธศาสนานิกายลามะในยุครุ่งเรือง โดยหลังคาทุกยอดของพระราชวัง จะเป็นทองคำ

10.พระราชวังโบราณราชวงศ์หมิง (ฮั่น) และชิง (แมนจู) Imperial Palaces of the Ming and Qing Dynasties in Beijing and Shenyang (1987) โดยปกติแล้วราชวงศ์แมนจูจะมีแหล่งกำเนิดอยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง ซึ่งมีพระราชวังเช่นกัน แต่พระราชวังโบราณแม้จะสร้างขึ้นมาทีหลัง แต่มีความยิ่งใหญ่ ที่เป็นสถานศึกษาราชวงส์หมิง และชิง ที่สำคัญ

11.สุสานราชวงศ์หมิง Imperial Tombs of the Ming and Qing Dynasties (2000) ซึ่งมีกษัตริย์มากถึง 13 พระองค์ฝังอยู่ที่นี่

12.ไคผิง Kaiping Diaolou and Villages (2007) หมู่บ้านไคผิง เป็นหมู่บ้านที่อยู่ริมเขา

13.หลงเหมิน เล่อหยาง Longmen Grottoes (2000) มณฑลเหอหนาน มีความยิ่งใหญ่ในการที่มีการแกะสลักหน้าผาที่สวยงามมาก

14.สวนประจำชาติหลูซาน Lushan National Park (1996) อยู่มณฑลเจียงซี มีธรรมชาติงดงามมาก

15.สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ Mausoleum of the First Qin Emperor (1987) อยู่ใกล้นครซีอาน มณฑลส่านซี ซึ่งทั่วโลกต่างรู้จักกันดี

16.ม่อเกาคู Mogao Caves (1987) เป็นการแกะสลับหน้าผาหินของจีน ยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของจีน อยู่ในเส้นทางสายไหม มณฑลกังซู่

17.ภูเขาชิงเฉินซาน และเขื่อนตูเจียงเอี้ยน Mount Qingcheng and the Dujiangyan Irrigation System (2000) ซึ่งภูเขานี้มีจุดเด่นด้านลัทธิเต๋า มีกระเช้าไฟฟ้าสำหรับขึ้นไปบนเขา ซึ่งจะต้องเดินเท้าขึ้นบันไดอีกหลายสิบขั้นเพื่อไปนมัสการเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ฮก ลก ซิ่ว และสำหรับเขื่อนตูเจียงเอี้ยนได้รับการพูดถึงมากในช่วงแผ่นดินไหวเสฉวนครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นเขื่อนใหญ่และอาจจะแตกได้ แต่ทุกวันนี้ผ่านมาแล้ว 2,000 ปีเขื่อนนี้ยังไม่แตก แสดงให้เห็นความก้าวหน้าด้านชลประทานของจีนในสมัยโบราณอย่างมาก

18.พระราชวังแปรพระราชฐานกษัตรเฉียนหลง ราชวงศ์ชิง Mountain Resort and its Outlying Temples, Chengde (1994) อยู่เมืองเฉิงเต๋อ ซึ่งอยู่ห่างจากปักกิ่งราว 400 กิโลเมตร ด้านข้างขนาบด้วยวัดของศาสนาต่างๆ เช่น นิกายทิเบต พุทธ เต๋า ฯลฯ ซึ่งมีความสวยงามมาก และสถานที่นี้มีประวัติศาสตรที่น่าสนใจตรงที่เป็นพระราชวังแห่งหนึ่งที่พระนางชูสีไทเฮาออกว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่ด้วย

19.เมืองเก่าลี่เจียง Old Town of Lijiang (1997) มณฑลยูนนาน เป็นเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ในจุดภูมิประเทศที่ดีมาก ที่จีนได้ใช้เป็นกุญแจด้านการค้าและการวางยุทธศาสตร์มาตั้งแต่อดีต ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสวยงามมากด้านสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อด้านองค์ประกอบหลายวัฒนธรรมมารวมกัน ซึ่งสิ่งที่ขึ้นชื่ออีกประการหนึ่งคือที่ลี่เจียงนี้มีระบบชลประทานที่ซับซ้อนสร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ และสามารถใช้มาจนกระทั่งปัจจุบัน

20.พิพิธภัณฑ์มนุษย์วานร ปักกิ่ง Peking Man Site at Zhoukoudian (1987) ที่มีการขุดพบมนุษย์ปักกิ่งโบราณ ซึ่งจะมีการเล่าถึงประวัติมนุษย์ปักกิ่งตั้งแต่วิวัฒนาการจากลิงวานร

21.พระราชวังฤดูร้อน ปักกิ่ง Summer Palace, an Imperial Garden in Beijing (1998) ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1998 ถือว่าเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยพระราชวังฤดูร้อนนี้มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ย้อนหลังไปเมื่อศตวรรษที่11 จักรพรรดิองค์หนึ่งแห่งราชวงศ์จินทรงมีพระราชโองการให้สร้างที่ประทับแรมขึ้นในพื้นที่ เขตไห่เตี้ยน นอกกรุงปักกิ่ง เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน เพื่อพักผ่อนตากอากาศ ต่อมาในหลายราชวงศ์มีการสร้างเสริมเติมต่อหลายครั้ง และรัชสมัยพระจักรพรรดิเฉียนหลง ทรงมีพระราชโองการให้สร้างขยายอุทยานแห่งนี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองวาระคล้ายวันพระราชสมภพของพระราชมารดา และทรงให้ชื่อว่า สวนชิงอีหยวน

จากนั้นได้ถูกทำลายหลายครั้งจากกองทหารต่างๆ และมีการบูรณะขึ้นมาใหม่อีกหลายครั้ง จนปี 1924 รัฐบาลจีนได้เปิดพระราชวังฤดูร้อนให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว

22.บ้านของขงจื่อ Temple and Cemetery of Confucius and the Kong Family Mansion in Qufu (1994) อยู่ที่เมืองฉี่ฝู มณฑลซานตง เป็นบ้านเกิดของขงจื่อ ปรมาจารย์จีนที่ได้รับการนับถืออย่างมากในจีนจนปัจจุบัน ซึ่งมีประวัติของขงจื่อ รูปปั้น ทำเนียบ และสุสานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาความยิ่งใหญ่ของลัทธิขงจื่อ

23.วัดเทียนถาน ปักกิ่ง Temple of Heaven: an Imperial Sacrificial Altar in Beijing (1998) เป็นสถานที่สร้างขึ้นเพื่อให้กษัตริย์จีนทำพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดิน รวมถึงมีจุดที่ให้กษัตริย์ยืนเพื่อสื่อสารกับสวรรค์ ส่วนใหญ่มักจะขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

24.กำแพงเมืองจีน The Great Wall (1987) โดยกำแพงเมืองจีนเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง และได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกของจีนในปี ค.ศ.1987 กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์โจว เมื่อราว 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยกษัตริย์แคว้นฉู่ได้ริเริ่มดำเนินการก่อสร้างขึ้น เพื่อป้องกันการรุกรานจากแคว้นอื่นๆ ต่อมาเมื่องเข้าสู่ยุคสมัยของจักรพรรดิฉินซีหรือจิ๋นซีฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ฉิน ก็ได้ทำการก่อสร้างกำแพงเพิ่มเติมออกไปอีก กระทั่งในสมัยของราชวงศ์ฮั่นก็มีการต่อเติมมาเรื่อยๆ จนมาถึงราชวงศ์หมิงก็ทำให้กำแพงเมืองจีน มีความยาวมากถึง 14,6000 ลี้ หรือราว 6,700 กิโลเมตร จนได้รับสมญานามว่าเป็น "กำแพงหมื่นลี้"

อย่างไรก็ดีที่ปักกิ่งจะสามารถเข้าชมได้ 4 ด่านใหญ่ๆ แต่ด่านที่มีชื่อเสียงที่สุดคือด่านต้าต๋าหลิง ซึ่งมีความสวยและสง่างามที่สุด ซึ่งเป็นจุดที่ถ่ายรูปไปเพื่อขอเป็นมรดกโลกด้วย

25. อิ๋น ซวี่ อยู่ที่เมืองอันหยาง Yin Xu (2006) ทางใต้ของมหานครปักกิ่งไป 500 กิโลเมตร ซึ่งมีจุดเด่นด้านวัฒนธรรมจีนตั้งแต่ยุคหิน ซึ่งถือเป็นยุคแรกๆ ของวัฒนธรรมจีนในสมัยราชวงศ์หยาง มีความเก่าแก่มาก ซึ่งรวมไปด้วยงานฝีมือ และความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ของคนสมัยนั้นด้วย

26. อิ๋นกั๋ง มณฑลซานซี Yungang Grottoes (2001) มีจุดเด่นที่ประติมากรรมการปั้นแบบจีนที่น่าสนใจมาก

จิ่วไจ้โกว-ดินแดนแห่งความฝัน

ส่วนมรดกโลกในกลุ่มรองลงมาได้แก่กลุ่มธรรมชาติ 7 แห่งได้แก่

1.ภูเขาหวงหลง มณฑลเสฉวน Huanglong Scenic and Historic Interest Area (1992) มีความสวยงามตามธรรมชาติมาก หากจะเดินทางไปจิ่วไจ้โกว จะต้องผ่านที่จุดนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีสนามบินเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาลงที่จุดนี้ได้

2.จิ่วไจ้โกว Jiuzhaigou Valley Scenic and Historic Interest Area (1992) ถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามมากที่สุดในจีน ถือว่าเป็นดินแดนแห่งความฝันและได้รับความนิยมในด้านการท่องเที่ยวมาก

3.ภูเขาซานชิงชาน Mount Sanqingshan National Park (2008) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีนี้

4.เขตอนุรักษ์แพนด้า มณฑลเสฉวน Sichuan Giant Panda Sanctuaries (2006) ซึ่งพร้อมด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ แต่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดไม่น้อย

5.หินปูน South China Karst (2007) เป็นป่าหินขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในมณฑลยูนนาน มณฑลกุ้ยโจว และเขตปกครองตนเองชนชาติจ๊วงกว่างซี ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่งดงามและยิ่งใหญ่มาก ซึ่งยอดหินนั้นจะแตกต่างมากกว่าแห่งอื่นๆ ทั้งรูปร่างและสีสัน

6.Three Parallel Rivers of Yunnan Protected Areas (2003) แม่น้ำ 3 สายบรรจบกันที่มณฑลยูนนาน

7. สุสานอู่หลิง มณฑลเจียงซู Wulingyuan Scenic and Historic Interest Area (1992) มีความน่าสนใจในธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์อย่างมาก

4 ภูเขาใหญ่ด้านผสมผสาน

มรดกโลกในกลุ่มผสมผสานมี 4 แห่งได้แก่

1.ภูเขาง้อไบ๊ Mount Emei Scenic Area, including Leshan Giant Buddha Scenic Area (1996) เป็นสถานที่สำคัญทางลัทธิเต๋า ซึ่งมีผู้นำเป็นผู้หญิง ด้านหลังเป็นภูเขาเล่อซาน ซึ่งมีหลวงพ่อโตแกะสลักทั้งภูเขา สร้างสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมมาบูชาหลวงพ่อโตกันมากด้วย

2.ภูเขาหวงซาน Mount Huangshan (1990) ได้รับการขนานนามว่าเป็นภูเขาที่สวยงามที่สุดของจีน มีทะเลหมอก ต้นไม้นานาพรรณ รวมทั้งมีจุดเด่นที่ต้นสนที่จะมีรูปร่างแปลกตามากมาย สวยงามสุดพรรณา

3.ภูเขาไท่ซาน Mount Taishan (1987) มณฑลซานตง อยู่ตรงข้ามกับประเทศเกาหลี มีประวัติศาสตร์ด้านลัทธิเต๋า ขณะเดียวกันเป็นภูเขา 1 ใน 5 ของจีน ที่แสดงทิศทางต่างๆ ซึ่งไท่ซานถือเป็นภูเขาประจำทิศตะวันออกของจีน

4.ภูเขาอูอี๋ Mount Wuyi (1999) เป็นภูเขาที่มีความสวยงามมากอยู่ที่มณฑลเสฉวน

จีนนอกจากจะเป็นประเทศที่มีประชากรสูงถึง 1,300 ล้านคน มีเนื้อที่ประเทศมากถึง 9,596,960 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ในโลก ทั้งยังประกอบด้วยแหล่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมรดกโลกมากถึง 38 แห่ง ซึ่งในช่วงชีวิตนี้ ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชม!
จิ่วไจ้โกว
หินแกะสลักที่ต้าซู
หินปูน South China Karst
กำลังโหลดความคิดเห็น