xs
xsm
sm
md
lg

เจพี มอร์แกนออกโรงเชียร์หุ้นมังกร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาคารเจพี มอร์แกนในนิวยอร์ก
หมิงเป้า – เจพี มอร์แกน วานิชธนกิจชื่อดังระบุหุ้นจีนถูกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นเวลาที่ควรจะรีบช้อนซื้อ พร้อมแสดงความมั่นใจต่ออนาคตหุ้นจีนในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า พร้อมแนะซื้อหุ้นถ่านหิน ก่อสร้าง และค้าปลีก

นายกง ฟังสงผู้จัดการและกรรมการของเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โคได้ไปร่วมงานสัมมนาของกองทุนเพื่อการลงทุนในเซินเจิ้น โดยได้เปิดเผยว่าความไม่แน่นอนอันเกิดจากนโยบายควบคุมเศรษฐกิจมหภาคของแผ่นดินใหญ่กำลังลดน้อยลง ดังนั้นช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดีสำหรับการซื้อหุ้นจีน

โดยกงได้ระบุว่า ขณะนี้ทางการจีนได้ทำการปรับขึ้นราคาน้ำมันและไฟฟ้าในปริมาณที่มากและรวดเร็วกว่าที่หลายฝ่ายได้คาดไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่า จีนได้ประเมินแล้วว่าปัญหาด้านเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน สำหรับตลาดหลักทรัพย์กระดานเอนั้น เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เพราะว่าบริษัทน้ำมันใหญ่ๆที่จะได้รับผลประโยชน์จากการขึ้นราคา ต่างก็เป็นบริษัที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นปิโตร ไชน่า หรือซิโนเปก ซึ่งมีหุ้นในตลาดรวมกันคิดเป็น 1 ใน 4 ของมูลค่าตลาด

ดัชนีตลาดหลักรทรัพย์ของจีนได้ตกลงมาเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นความดึงดูดสำหรับการช้อนซื้อ ซึ่งทางเจพี มอร์แกนคาดว่าในปี 2008-2009 จะมีอัตราการทำกำไรเพิ่มขึ้น 21% และ 18% ตามลำดับ

“หุ้นของจีน ไม่เคยกลายเป็นหุ้นที่มีราคาถูกขนาดนี้มาก่อน หากไม่รีบซื้อตอนนี้ จะไปรอซื้อเวลาไหน?” กง ฟังสงระบุ

นอกจากนั้นทางเจพี มอร์แกนยังมองว่าอนาคตในอีก 6-12 เดือนข้างหน้าหุ้นจีนมีแนวโน้มจะเติบโต เนื่องจากรัฐบาลได้พยายามผลักดันเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งจะทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเหล่านี้อาทิหุ้นของบริษัทถ่านหิน ก่อสร้าง ค้าปลีกกลายเป็นตัวเลือกชั้นดี

โดยหุ้นที่เจพี มอร์แกนเชียร์เป็นพิเศษนั้นได้แก่หุ้นของ เสินหัว เอ็นเนอร์จี, หุ้นของบริษัท ZTE,หัวเป่า อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง และธนาคารไอซีบีซีเป็นต้น

ทั้งนี้ ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ นายแอนดรูว์ แทนผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ DWS ซึ่งอยู่ในกลุ่มบริษัทของดอยช์ แบงก์ ที่ได้เปิดเผยว่า การลงทุนในแถบเอเชียควรมุ่งไปที่ตลาดหลักทรัพย์จีน และลดการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย เนื่องจากประเทศจีนมีเงินคงคลังที่เปี่ยมล้น ทำให้สามารถที่จะรับมือกับปัญหาของเงินเฟ้อและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น