รอยเตอร์ – ไต้หวันเผยเตรียมเปิดกว้างข้อจำกัดวิสาหกิจไปลงทุนในจีน พร้อมเตรียมเร่งการเปิดให้วิสาหกิจจีนมาลงทุนในไต้หวันได้ในเดือนส.ค.นี้ เพื่อให้เงินทุนมีการไหลเวียนไปมา และผลักดันให้ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการค้าการระดมทุน
นายอิ่น ฉี่หมิงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวันได้ประกาศในวันพุธ (16 ก.ค.) ว่าหลังจากที่ในวันพรุ่งนี้ทางไต้หวันจะเปิดกว้างข้อจำกัดการลงทุนสำหรับวิสาหกิจไต้หวันที่ไปลงทุนในแผ่นดินใหญ่แล้ว ขั้นต่อไปก็จะมีการผ่อนคลายนโยบายการค้าระหว่างสองฟากฝั่ง และจะมีการเปิดให้นักลงทุนจีนมาลงทุนในไต้หวันได้ในเดือนส.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้แต่เดิม
โดยก่อนหน้านี้อิ่นได้เคยระบุว่า มีการวางแผนว่าจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุนระหว่าง 2 ฟากฝั่งภายในครึ่งปี และจะแบ่งเป็น 3 ช่วง โดยเริ่มจากการคลายข้อจำกัดในการที่วิสาหกิจไต้หวันจะไปลงทุนในแผ่นดินใหญ่ทั้งในด้านจำนวนการเงินทุนและประเภทวิสาหกิจ รวมถึงการเปิดให้วิสาหกิจจีนมาลงทุนในไต้หวัน
“เราจะเลื่อนขั้นตอนทั้ง 3 ให้เร็วขึ้นกว่าที่เคยกำหนด โดยมีประเด็นสำคัญอยู่ที่การให้เงินทุนนั้นสามารถมีการไปและกลับมาได้ เพื่อผลักดันให้ไต้หวันเป็นศูนย์กลางของการระดมทุน ศูนย์กลางการซื้อขาย และให้วิสาหกิจสามารถก้าวไปสู่ระดับโลก” อิ่นระบุ
การผ่อนคลายข้อจำกัดวิสาหกิจไต้หวันไปลงทุนในแผ่นดินใหญ่นั้น คือการขยายจากไม่เกิน 40%ของสินทรัพย์สุทธิมาเป็น 60% ของสินทรัพย์สุทธิ และหากบริษัทมีการตั้งสำนักงานใหญ่หรือบริษัทลูกของบริษัทข้ามชาติในไต้หวัน ก็จะไม่มีการจำกัดจำนวนในการลงทุนในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งคาดว่านโยบายนี้จะผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวถูกตั้งคำถามโดยพรรคฝ่ายค้านอย่างดีพีพีว่าการผลักดันนโยบายให้นักลงทุนไปลงทุนในจีนจะทำให้เงินทุนของไต้หวันไหลออกมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในปัจจุบันไต้หวันยังจำกัดการลงทุนของชาวจีนที่จะมาลงทุนในไต้หวันอย่างเข้มงวด เมื่อหม่า อิงจิ่วได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ก็เคยระบุว่าจะมีการเดินหน้าเพื่อเปิดกว้างมากขึ้น และยินดีต้อนรับวิสาหกิจจีนมาร่วมลงทุนในไต้หวัน