ซินหัวเน็ต-ฮ่องกงจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในเมืองพัฒนาแล้วที่ดีที่สุดในโลก หากสามารถรักษาสถานะศูนย์กลางการเงินของโลก ขณะเดียวกันก็เพิ่มความร่วมมือด้านต่างๆกับจีน แก่หนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ยเป้าของฮ่องกงรายงานวันพุธ(6 ก.พ.)ในบทสัมภาษณ์พิเศษของหลินอี้ฟู รองประธานธนาคารโลกหรือหัวหน้านักเศรษฐกรคนล่าสุดของธนาคารโลกใน
สำหรับประเด็นไต้หวัน หลินกล่าวว่า การขยายความร่วมมือระหว่างไต้หวันและจีน เป็นประโยชน์ขั้นพื้นฐานของทั้งสองฝ่าย และไต้หวันจำเป็นต้องขจัดอุปสรรคความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าบริเวณช่องแคบ เพื่อให้เศรษฐกิจไต้หวันพัฒนามากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หลินยังคาดการณ์ว่า ความท้าทายมากมายที่เศรษฐกิจโลกเผชิญในช่วงปี 2008 จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นในวงจรเศรษฐกิจ แต่ไม่ส่งผลให้เกิดการถดถอยอย่างรุนแรง และเศรษฐกิจโลกจะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหลังการเปลี่ยนแปลงนั้น
ขณะเดียวกัน หลินก็คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2008 ถึง 2009 จะขยายตัวที่ราว 10% ส่วนเงินเฟ้อปี 2008 มีแนวโน้มขยายตัวที่ราว 4-5% ซึ่งการบริโภคภายในประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในปีนี้ และจีนจะเผชิญกับความไม่แน่นอนในธุรกิจส่งออก ขณะเดียวกันก็เกิดโอกาสต่างๆมากมายจากการพัฒนาอุตสาหกรรมและการลงทุนที่ค่อนข้างคึกคัก
ทั้งนี้ หลินอี้ฟู(จัสติน หลิน)เป็นชาวจีนคนแรกที่เข้าดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้เมื่อวันจันทร์(4 ก.พ.)แทนฟรังซัวร์ บูร์กียง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดประเด็นวาระวิจัย และชี้นำทิศทางด้านวิชาการ คาดจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้.