เอเอฟพี – ผลวิจัยชี้วัยหนุ่มสาวแดนมังกรกว่า 25 % กินอาหารไม่เหมาะสม ออกกำลังกายน้อย น้ำหนักตัวเกินขนาด เสี่ยงต่อโรคอ้วน
ผลงานวิจัยของศาสตราจารย์แบร์รี พ็อพคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลน่า ที่ตีพิมพ์ในวารสารเฮลธ์ แอฟแฟร์สฉบับเดือนกรกฏาคม-สิงหาคม ของสหรัฐฯว่า ชาวจีนในวัยผู้ใหญ่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนและคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคอ้วนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2028 หากรัฐบาลไม่มีการรณรงค์ให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในทางที่ถูกต้องเหมาะสม
ข้อมูลจากการสำรวจของศูนย์โภชนาการและสุขภาพจีน พบว่าชาวจีนมีการบริโภคอาหารประเภทโปรตีนอาทิ ไข่และเสื้อสัตว์ในปริมาณมาก ขณะที่บริโภคอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและผักในปริมาณน้อย อีกทั้งพฤติกรรมในการทำงานส่วนใหญ่เป็นแบบนั่งโต๊ะ มีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย
จากการศึกษาของศาสตราจารย์แบร์รีเผย นอกจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องแล้ว การที่ผู้คนนิยมซื้อรถยนต์ส่วนตัวและโทรทัศน์ที่นับวันจะเพิ่มขั้นนั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง และจากการสำรวจ 80 % ในกลุ่มที่มีโทรทัศน์และรถยนต์เป็นของตนเองจะมีน้ำหนักตัวมากกว่าในกลุ่มคนที่ไม่มี
ทั้งนี้จากข้อมูลจากศูนย์โภชนาการฯ แบร์รีคาดว่าผู้ชายวัยผู้ใหญ่ในจีนจะมีน้ำหนักเกินขนาดหรือเป็นโรคอ้วนถึงปีละ 1.2 %
อย่างไรก็ดี แบร์รี พ็อพคินได้เสนอให้ทางการปักกิ่งสนับสนุนให้ประชาชนหันมาบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ และสร้างค่านิยมในการการออกกำลังกายควบคู่กันให้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการที่มีน้ำหนักตัวมาก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดและมะเร็ง ซึ่งพบว่ากลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้แก่ กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง