xs
xsm
sm
md
lg

จีนติดโผ 500 บริษัทชั้นนำโลกมากเป็นประวัติการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนังสือพิมพ์สากล – หนังสือพิมพ์ Financial Times ประกาศ 500 อันดับบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดทั่วโลกประจำปี 2008 บริษัทเอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่นของสหรัฐฯ รั้งตำแหน่งแชมป์อันดับหนึ่งขณะที่ปิโตรไชน่ารัฐวิสาหกิจผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ของจีนมาแรงคว้าอันดับรองแชมป์เบียดเจเนอรัล อิเล็กทริกส์ (จีอี)ตกอันดับ 3

สืบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้บริษัทผู้ประกอบการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต่างตบเท้าเข้าชาร์ทบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเรียงหน้าขึ้นสู่อันดับต้นๆ มากกว่ากลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ในจำนวนดังกล่าวพบว่าบริษัทส่วนใหญ่ที่ติดโผล้วนมาจากประเทศจีน รัสเซีย และอินเดีย ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศเหล่านี้ที่นับวันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากยิ่งขึ้น

โดยการจัดอันดับในปีนี้บริษัทจากจีนแผ่นดินใหญ่ติดโผมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 25 บริษัท ซึ่งตำแหน่งที่ได้รับก็ขยับขึ้นด้วย เช่น บริษัทไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมีคัล คอร์ปอเรชั่น(ซิโนเปค)อยู่ในอันดับ 37 โดยขยับขึ้นจากอันดับ 53 ส่วนไชน่า โมบายยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีนขึ้นสู่อันดับ 5 จากเดิมอันดับ 16 ด้านไชน่า ยูนิคอมติดโผครั้งแรกที่อันดับ 337

สำหรับธนาคารในอเมริกาซึ่งปีนี้เผชิญกับวิกฤตซับไพร์มทำให้มูลค่าตลาดของหลายๆธนาคารลดลง แต่สำหรับธนาคารจีนหลายแห่งยังคงอยู่ตำแหน่งที่น่าพอใจ โดยปีนี้ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชี่ยล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ไอซีบีซี)ขยับจากอันดับ 9 ขึ้นมาที่อับดับ 6 , ธนาคารไชน่า คอนสตรักชั่น แบงก์ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 20 ต่อด้วยธนาคารไชน่า เมอร์ชัน แบงก์อันดับที่ 103 ตามมาติดๆในอับดับที่ 105 ได้แก่โบคอม(แบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่น)
ขณะที่ยักษ์ใหญ่ธนาคารโลกหลายแห่งพร้อมใจกันหลุดโผ เช่น ซิติแบงก์ร่วงจากอันดับ 4 ลงมาอันดับ 53 เช่นเดียวกันกับเอชเอสบีซีที่ร่วงจากอันดับ 12 ลงมาอยู่อันดับ 15 ด้านแบงก์ ออฟ อเมริกาจากอันดับ 8 ร่วงสู่อันดับ 23

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ Financial Times เริ่มจัดอันดับให้กับบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกโดยอ้างอิงจากกรรมสิทธิ์ในการถือครองหุ้นในปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการประกาศ 500 อันดับบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก จะประกาศเพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งในปีนี้จัดทำต่อเนื่องเป็นที่ 12แล้ว โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัทที่จะเข้าสู่การจัดอันดับได้นั้น จะต้องเป็นบริษัทที่มีการลงทุนหมุนเวียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 15 %
กำลังโหลดความคิดเห็น