มังกรปรับราคาน้ำมันสายฟ้าแลบ! งัดมาตรการด่วนช่วยคนเดือดร้อน

เอเยนซี – ทางการจีนสั่งปรับขึ้นราคาน้ำมันสำเร็จรูปทั้งดีเซลและเบนซินตันละ 1,000 หยวนหรือปรับขึ้นราว 18% พร้อมสั่งปรับราคาค่าไฟ 0.25 หยวนต่อหน่วย หรือปรับขึ้นประมาณ 4.7% โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปรับสมดุลราคาของน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปสืบเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูง พร้อมออกมาตรการชดเชยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและการคมนาคม

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) ได้ประกาศในคืนวันที่ 19 มิ.ย.ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป ให้มีการปรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปของน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซลตันละ 1,000 หยวน และปรับราคาเชื้อเพลิงการบินตันละ 1,500 หยวน แต่ยังไม่มีการปรับราคาก๊าซหุงตุ้มกับก๊าซธรรมชาติ
นอกจากนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป ก็จะมีการปรับราคาค่าไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยจะปรับขึ้นหน่วย (พันวัตต์) ละ 0.25 หยวน

โดยทางเอ็นดีอาร์ซีได้ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกับน้ำมันในประเทศ ทิ้งห่างกันมากขึ้น ส่งผลให้วิสาหกิจแปรรูปและนำเข้าต้องเสียหายอย่างหนัก จนโรงกลั่นหลายแห่งเกิดการหยุดการผลิต หรือผลิตไม่เต็มกำลัง จนมีปัญหาอุปสงค์อุปทานขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นเพื่อปรับสมดุลทางด้านราคา และเพื่อรักษาอุปทานของน้ำมันสำเร็จรูปภายในประเทศ และผลักดันให้เกิดการประหยัดน้ำมันและพลังงาน จึงได้ตัดสินใจให้มีการปรับขึ้นราคาดังกล่าว ซึ่งทำให้การปรับในครั้งนี้ ทำให้ราคาน้ำมันของจีนพุ่งขึ้น 18% ในชั่วข้ามคืน

การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลมังกร เท่ากับเป็นการยอมผลักดันความกดดันส่วนหนึ่งอันเกิดจากการขึ้นราคาของน้ำมันดิบในตลาดโลกมายังผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมาได้มีรัฐบาลและวิสาหกิจจากหลายชาติได้เรียกร้องให้จีนปรับราคาพลังงานนานแล้ว ซึ่งแม้ว่าการขึ้นราคาน้ำมัน จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอาจทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นจนอาจต้องมีการขึ้นราคาสินค้าส่งออก แต่การปรับราคาน้ำมันก็เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะรักษาระบบกลไกราคาไว้

จีนปรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา และเป็นการปรับในอัตรา 10% โดยในขณะนั้นราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งเอ็นดีอาร์ซีได้ระบุว่า การปรับราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดีเซลครั้งนี้จะอยู่ที่ 17%และ18% ตามลำดับ ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินจากเดิมแกลลอนละ 2.8 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นเป็น 3.05 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนน้ำมันดีเซลขึ้นจากแกลลอนละ 2.45 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 3.05เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 ปี ในขณะที่ราคาไฟฟ้าทั่วประเทศก็ถูกปรับขึ้นราว 4.7%

ที่ผ่านมาจีนเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และถูกกล่าวหามาตลอดว่าเป็นต้นเหตุให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งหลายเดือนที่ผ่านมาที่ราคาน้ำมันพุ่งทะยานราวติดปีก ทางการจีนก็ยังยืนยันจะควบคุมราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซลและไฟฟ้าเอาไว้ จนกระทั่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วว่ารัฐทำการแทรกแซงกลไกราคา

แม้กระทั่งในช่วงการประชุมเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-สหรัฐฯครั้งที่ 4 ที่วอชิงตันที่ผ่านมา ประเด็นของราคาน้ำมันก็กลายเป็นหนึ่งในประเด็นเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีการหารือกันอย่างร้อนแรงที่สุด โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯเฮนรี พอลสันได้กระตุ้นรัฐบาลให้ยกเลิกมาตรการการควบคุมราคาน้ำมัน พร้อมยกบทเรียนว่าสหรัฐฯเคยใช้วิธีการดังกล่าวมาแล้วในทศวรรษที่ 1970 แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์

ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การประกาศขึ้นราคาน้ำมันและไฟฟ้าแบบฟ้าแลบเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจีนลดความพยายามในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่กลับเป็นการสะท้อนว่ารัฐบาลมีความเชื่อมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อได้

ในขณะที่ข่าวการปรับขึ้นราคาประกาศออกไป ก็มีกลุ่มผู้ใช้รถหลายคนที่ไม่พอใจกับการขึ้นราคาดังกล่าว ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ก็คาดว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมันในครั้งนี้อาจจะมีส่วนผลักดันให้ดัชนีเงินเฟ้อทั้งปีเพิ่มขึ้นอีกราว 1%

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดกับการดำรงชีวิตของประชาชน จึงได้ออกมาตรการต่างๆมาเพื่อสนับสนุนการปรับขึ้นราคาในครั้งนี้ อาทิเช่นจะมีการให้เงินชดเชยกับเกษตรกรปลูกข้าว ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และป่าไม้ โดยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนั้นจะได้รับค่าชดเชยเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีให้อยู่แล้วอีกทุก 5 หยวนต่อ 1 ไร่จีน

นอกจากนั้นยังมีการอุดหนุนภาคคมนามคม โดยจะให้เงินชดเชยเพื่อไม่ให้มีการขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัด แม้กระทั่งรถแท็กซี่ก็จะได้รับการชดเชยค่าน้ำมัน เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร

ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มประกันรายได้น้อยนั้น ก็จะได้รับเงินชดเชยเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 15 หยวน ในชนบทจะได้เพิ่ม 10 หยวน

ทั้งนี้ การปรับราคาพลังงานแบบกะทันหันของจีน ได้ทำให้ราคาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ตลาดนิวยอร์กนั้น ตกลง 4.75 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือตกลงมา 3.5% อยู่ที่ 131.6 เหรียญต่อดอลลาร์สหรัฐฯ