xs
xsm
sm
md
lg

มังกรเปิดม่านรับแบงก์เทศร่วมทุนบ.หลักทรัพย์ สหรัฐฯยืมเวทีคุยศก.ขอเจรจาเกาะเข้าตลาดด้วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเชียนวอลสตรีทเจอร์นัลด์ – หลังมีคำสั่งห้ามไม่ให้ต่างชาติเข้ามาร่วมทุนในบริษัทหลักทรัพย์จีนตั้งแต่ 2005 เป็นต้นมา ล่าสุดตลาดจีนเริ่มคึกคักอีกครั้ง เมื่อผู้คุมกฎจีนยอมเปิดทางให้วานิชธนกิจต่างชาติเข้ามาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทจีน และอนุญาตให้ขยายธุรกิจในจีนได้

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้คุมตลาดหลักทรัพย์จีนได้อนุมัติให้เครดิต สวิส กรุ๊ป จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟาวเดอร์ ซิเคียวริตี้ส์ โดยเครดิต สวิส กรุ๊ป ลงทุนในบริษัทร่วมทุนทั้งสิ้น 266.4 ล้านหยวน ถือหุ้น 33.3% โดยผู้สังเกตการณ์ตลาดเชื่อว่า เร็วๆ นี้จะมีการอนุมัตการร่วมทุนระหว่างบริษัทต่างชาติและบริษัทหลักทรัพย์จีนคลอดตามออกมาอีก รวมทั้ง ธนาคารสหรัฐฯ ด้วย

โดยในระหว่างการประชุมเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์จีน-สหรัฐฯ รอบล่าสุดที่สิ้นสุดในวันที่ 18 มิ.ย.ตามเวลาท้องถิ่นนั้น ทางสหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะพยายามผลักดันธนาคารสัญชาติมะกันเข้าสู่ตลาดทุนของจีนให้ได้ ทั้งนี้การประชุมดังกล่าวนั้นจัดขึ้นโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เฮนรี่ พอลสัน อดีตนายใหญ่โกลด์แมน แซกส์ เป็นโต้โผใหญ่

นอกจากเครดิต สวิส กรุ๊ป ที่ได้ไฟเขียวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางซีแอลเอสเอ เอเชีย-แปซิฟิก มาร์เก็ตส์ ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของธนาคาร เครดิต อกริโคล ของฝรั่งเศส ก็ได้เปิดเผยว่า บริษัทร่วมทุนของธนาคาร ซึ่งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้นั้น ได้รับใบอนุญาตจากผู้คุมกฎจีนให้สามารถเข้าไปเทรดหุ้นในกระดานเอได้ โดยหุ้นกระดานเอ เป็นหุ้นสกุลเงินหยวนของบริษัทจีน ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แผ่นดินใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาถูกจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

นอกจากวานิชธนกิจข้างต้นแล้ว เชื่อว่ายังมีธนาคารต่างชาติอีกจำนวนมากที่กำลังแสวงหาช่องทางเข้าเจาะตลาดทุนจีน ซึ่งห้ามบริษัทต่างชาติที่ไม่มีคู่หุ้นส่วนในประเทศจีนรุกเข้าตลาด ซึ่งปัจจุบันธนาคารอย่าง ซิตี้ กรุ๊ป และ มอร์แกน สแตนลีย์ ล้วนเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทจีนแล้ว ขณะที่บริษัทรายอื่นๆ อย่าง เมอร์ริลล์ ลินช์, เลห์แมน บราเธอร์ โฮลดิ้ง, เจพี มอร์แกน เชส กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทหลักทรัพย์จีน และรอสัญญาร่วมทุน แห่งข่าววงในกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารต่างๆ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น