สำนักข่าวซินหัวอ้างเศรษฐกรชื่อดังโต้กระแสเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนว่า เศรษฐกิจแดนมังกรจะไม่ตกลงอย่างพลิกผันและฉับพลัน หลังโอลิมปิก เกมส์ แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวเศรษฐกิจโลก
ฟานกังเศรษฐกรชื่อดังแห่งคณะกรรมการนโยบายการเงินสังกัดธนาคารกลางจีน ชี้ว่าการเติบโตของจีน จะไม่ตกลงอย่างดุเดือดหลังโอลิมปิก โดยการลงทุนในภาคกีฬาและภาคโครงสร้างพื้นฐานนั้น มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 3 ของภาคลงทุนสินทรัพย์ถาวรทั้งหมด
การลงทุนทั้งหมดสำหรับรองรับโอลิมปิก เกมส์ในเดือนสิงหาคมนี้ มีประมาณ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจีดีพี 3.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2007
“จีนเป็นประเทศใหญ่ และปักกิ่งก็เป็นส่วนเดียวเล็กๆเท่านั้น แม้การลงทุนในปักกิ่ง จะตกลงอย่างฮวบฮาบหลังโอลิมปิก ก็จะไม่ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจทั้งหมด โดยหลังโอลิมปิก เศรษฐกิจจีนจะยังคงขยายตัวด้วยจังหวะก้าวของตัวเอง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก”
แต่ปัญหาท้าทายในเศรษฐกิจจีนนั้น อยู่ที่ความไม่สมดุลในโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป ที่จะหั่นความต้องการส่งออกจากจีน
ทั้งนี้ ก่อนหน้าเมื่อวันจันทร์(16 มิ.ย.) ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัลยักษ์ใหญ่สื่อจีนอีกราย ก็ได้รายงาน โดยอ้างการวิเคราะห์ของหลิว หยวนชุนเศรษฐกรจากมหาวิทยาลัยประชาชนว่า จีนจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวของโลก และภาวะเงินเฟ้อทะยานสูง โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2008 นี้ จีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 10.6 เทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นอัตราลดลงจากการเติบโตร้อยละ 11.9 ของทั้งปี 2007 สำหรับอัตราเติบโตปี 2008 นี้ จะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 10.4
นอกจากนี้ ยังระบุว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่การปรับตัวระยะสั้น แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรการชะลอตัว ที่จะยืดเยื้อไปหลายปี รายงานฉบับนี้ ยังคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในภาคผู้บริโภค จะทะยานสูงถึงร้อยละ 7.1 ในปี 2008 เทียบกับร้อยละ 4.8 ของปี 2007 ขณะที่ ยอดเกินดุลการค้าสำหรับปีนี้ จะอยู่ที่ 258,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หดลงระดับ 262,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 20007 สืบเนื่องจากปัจจัยความต้องการภายนอกที่ลดลง และค่าเงินภายในประเทศที่แข็งค่าขึ้น