หนังสือพิมพ์สากล / รอยเตอร์ – แม้ทางการจีนจะยังเดินหน้าควบคุมราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อไป ทว่าขณะนี้ปรากฏว่าภาวะขาดแคลนน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลได้ทำให้ปั๊มเอกชนตามชานเมืองตัดสินใจฝืนคำสั่งทางการแอบขึ้นราคา ซ้ำยังมีให้เติมอย่างไม่จำกัด ในขณะที่ผลสำรวจพบว่าในเดือนนี้มีการเพิ่มปริมาณการกลั่นเพื่อช่วยชะลอน้ำมันขาดแคลน
ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้วสำหรับราคาน้ำมัน 150 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.) พุ่งขึ้นไปเกือบ 11 ดอลลาร์ ในตลาดนิวยอร์กและปิดตลาดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 138.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ที่ผ่านมารัฐบาลจีนยังยืนยันที่จะแช่แข็งการขึ้นราคาน้ำมันเอาไว้ จนทำให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันนั้นกำลังเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดสำนักข่าวจีนได้รายงานว่า ในเขตชานเมืองของปักกิ่งนั้น ได้มีปั๊มน้ำมันเอกชนอย่างน้อย 3 รายที่กล้าฝ่าอาญาสิทธิ์รัฐบาลมังกร ด้วยการขายน้ำมันดีเซลในราคาลิตรละ 6.8 หยวน (ราว 31 บาท) ในขณะที่ทางการกำหนดไว้ให้จำหน่ายในราคาสูงสุดไม่เกิน ลิตรละ 5.29 หยวน (ราว 24 บาท) ในขณะที่มีปั๊มน้ำมันอีกรายหนึ่งยอมให้ชาวบ้านนำถังป่าวมาซื้อน้ำมันใส่ถังเป็นจำนวนมาก โดยจำหน่ายในราคาที่สูงถึง 7.2 หยวน (ราว 33 บาท)
ส่วนบริเวณเขตซุ่นอี้ของปักกิ่ง ซึ่งเป็นแหล่งที่นักธุรกิจต่างชาตินิยมพักอาศัยกัน ก็มีพนักงานของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่ระบุว่า “จะมาเติมน้ำมันที่นี่สัก 4-5 ตันก็ได้ แต่อย่าหวังว่าจะได้รับใบเสร็จกลับไป”
คนขับบรรทุกรายหนึ่งที่กำลังต่อคิวรอเติมน้ำมันอยู่ที่ปั๊มของปิโตร ไชน่าในมณฑลเหอเป่ยได้ระบุว่า ปั๊มน้ำมันเอกชนบริเวณรอบนอก หรือชานเมืองปักกิ่งส่วนใหญ่จะจำหน่ายน้ำมันดีเซลในราคา 6.5-6.4 หยวนกันทั้งนั้น ในขณะที่ปั๊มน้ำมันของปิโตร ไชน่าที่ยังจำหน่ายน้ำมันตามราคาที่ทางการกำหนด แต่ก็จำกัดให้เติมได้ไม่เกินคันละ 50 หยวนเท่านั้น ซึ่งปริมาณน้ำมันเท่านี้สำหรับรถบรรทุกแล้ว มันก็แค่พอสำหรับขับไปเติมต่อปั๊มหน้าเท่านั้น
หนังสือพิมพ์ พีเพิลเดลี่ของจีนได้รายงานว่า ขณะนี้ภาคเกษตรกำลังขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก กระทั่งทำให้หลายคนจำต้องกัดฟันเพื่อที่จะไปซื้อน้ำมันใต้ดินในราคาที่สูงกว่าที่ทางการกำหนดเอาไว้
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการปรับราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพียงครั้งเดียว นั้นก็คือในช่วงเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยปรับขึ้นทั้งสิ้น 10% จากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก ทั้งที่ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกได้พุ่งขึ้นไปเกือบเท่าตัวจนสูงเป็นประวัติการณ์ไปหลายรอบ
ด้านสำนักข่าวซินหัวก็ได้รายงานว่า นายจาง กั๋วเป่ารองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (เอ็นดีอาร์ซี) ได้ระบุว่า การที่จีนพยายามใช้มาตรการควบคุมราคาน้ำมัน จะเป็นประโยชน์ต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจและสังคม หากปล่อยให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปพุ่งไปตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จะทำให้เกิดเป็นเสียต่อภาคการเกษตรและภาคการผลิตอื่นๆอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องชะลอโครงการปฏิรูปราคาน้ำมันสำเร็จรูปเอาไว้ก่อน
นอกจากนั้น จางยังยืนยันว่า “การชะลอการขึ้นราคาน้ำมันชั่วคราวถือเป็นสิ่งดีต่อสังคมและเศรษฐกิจ เพราะหากปล่อยให้ราคาพุ่งขึ้น ไม่เพียงแต่จะเป็นปัญหาต่อเกษตรกรและผู้ผลิตเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลต่อไปทั่วโลกยิ่งกว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นอีกด้วย”
นอกจากนั้นผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เปิดเผยถึงตัวเลขปริมาณการกลั่นน้ำมันดีเซลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของโรงกลั่นหลัก 12 แห่งของประเทศจีน โดยพบว่าในเดือนมิ.ย. มีการเพิ่มปริมาณการกลั่นขึ้นเล็กน้อย เพื่อที่จะชะลอปัญหาที่หลายแห่งกำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันดีเซล
ยกตัวอย่างเช่น โรงกลั่นที่เม่าหมิง มณฑลกวางตุ้งได้เพิ่มการกลั่นจากวันละ 223,000 บาร์เรลในเดือนพ.ค.มาเป็น 287,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิ.ย. ในขณะที่โรงกลั่นที่ต้าเหลียน กับจิ่นโจว ในมณฑลเหลียวหนิงได้เพิ่มจากวันละ 223,000 บาร์เรลกับ 94,000 บาร์เรลมาเป็น 267,000 บาร์เรลกับ 129,000 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ
ทั้งนี้โรงกลั่นทั้ง 12 แห่งนี้ได้กลั่นน้ำมันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่ง และมีการกลั่นน้ำมันดิบในเดือนมิ.ย.อยู่ที่วันละ 2.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.วันละราว 200,000 บาร์เรล